วันนี้ (8 ธ.ค.66) กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เชิญ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ-อดีต หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าให้ถ้อยคำ ข้อมูล เอกสาร เมื่อครั้ง อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี แบบลงมติ เมื่อ 17 ก.พ.65 ประเด็น การทุจริตนำเข้าหมูเถื่อน โดยนายมงคลกิตติ์ ตั้งข้อสงสัยว่าทำไม ในช่วงที่ตนนั้นได้มีการอภิปรายใน ครั้งนั้น เหตุใดรัฐมนตรีในขณะนั้น ถึงปล่อยให้ ไม่มีการนำเข้าหมูอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะทำให้หมูถูกลง เพียงพอต่อการบริโภค ในส่วนที่ทำให้ราคาหมูแพงในช่วงนั้นสาเหตุสำคัญคือหมูขาดตลาดเพราะอหิวาแอฟริกา กรมการค้าภายในไม่ทำงาน ไม่ควบคุมราคาสินค้า มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง หลังจากนั้นมีกระบวนการแอบนำเข้าหมู เพราะราคาหมูก็ยังสูงขึ้น นำเข้าถูกขายแพง กำไรมาก จึงจำเป็นต้องแอบนำเข้า ซึ่งขณะนั้นคนที่ควบคุมราคา ควบคุมการนำเข้าหมู ต้องมีการนำเสนอ ครม. นำเข้าหมู จะได้ไม่เกิดการขาดแคลน เมื่อไม่นำเข้าจึงทุจริต ดังนั้นกระบวนการทุจริตจึงเริ่มเกิดขึ้น
นายมงคลกิตติ์ ยังระบุอีกว่า การเดินทางมาในวันนี้ หลังจากให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้า DSI แล้ว จะระบุชื่อ รัฐมนตรี ,อดีตรัฐมนตรี ,อดีตอธิบดี,รองอธิบดี ผู้อำนายการสำนัก เอกชนกว่า 10 ราย ห้างค้าใหญ่ฯลฯ ร่วมกันทุจริต ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ที่เข้าข่ายซื้อของเถื่อน-ฟอกเงิน อยู่ในเอกสารสำนวนด้วย โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 30,000 ล้าน
ต่อปี
โดยนายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า ที่ตนได้เปิดเผยถึงกระบวนการดังกล่าว ไม่ได้ต้องการสร้างกระแสหรือต้องการแสงให้ตัวเอง แต่ต้องการปกป้องชีวิตของคนไทยเพราะเนื่องจากเนื้อหมูที่ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นหมูราคาถูก คุณภาพต่ำ จะมีสารพิษปนเปื้อนจำนวนมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมทั้ง เป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม