โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้ม จีนตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน (CATARC) แห่งที่ 4 ของโลกในไทย แสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดดเด่นในภูมิภาคพร้อมเป็นฐานการผลิตยานยนต์สำคัญ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน (China Automotive Technology and Research Center : CATARC) โดยเป็นสำนักงานสาขาในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งที่ 4 ของโลก ต่อจากเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างจีนกับไทย ในการนำศักยภาพด้านการพัฒนานโยบาย การกำหนดมาตรฐาน และการรับรอง รวมถึงเครือข่ายอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของจีนมาบูรณาการร่วมกับการพัฒนาอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ของไทย รองรับการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน และฐานการผลิตที่สำคัญของโลก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์ CATARC จะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ผลิต EV ในจีน ในการเข้ามาลงทุนในไทย และในภูมิภาค รวมทั้งยังเป็นองค์กรสนับสนุนด้านเทคนิคสำหรับการวางแผนอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนทางด้าน EV ของจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องยนต์สันดาป (ICE) ในการขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ผ่านคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ สอดคล้องกับมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งได้กำหนดมาตรฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และมีการให้บริการทดสอบรับรองมาตรฐานของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2566 ประเทศไทยมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คิดเป็นร้อยละ 78 ของปริมาณการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และในปี 2565 ประเทศไทยมีการผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ xEV เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนประมาณ 72,000 คัน
“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเเนวทางสำคัญของไทยสู่การเปลี่ยนผ่านไปใช้ยานยนต์สมัยใหม่ เเละการเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต รวมทั้งช่วยเพิ่มทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเเละประหยัดพลังงาน เพื่อ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งการตั้งศูนย์ฯ ของจีนนี้เป็นโอกาสต่อยอดการพัฒนายานยนต์ของไทย สู่ยานยนต์สมัยใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นโอกาสพัฒนาคุณภาพแรงงานไทยอีกด้วย“ นายชัย กล่าว