“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจ “ประชาธิปัตย์ในใจประชาชน” พบคนกทม.ยังจำผลงานยุค “ชวน หลีกภัย” กยศ.ยืนหนึ่ง สิทธิสตรีเท่าเทียม-นมโรงเรียน-ปฏิรูปการศึกษา สมัย “สุขวิช” นั่งรมว.ศธ. ขณะที่เลือกหัวหน้าคนใหม่พรุ่งนี้ ปชช.อยากได้ “นราพัฒน์” มาแรงแซง “วทันยา” แต่หากส่งสนามผู้ว่าฯกทม. “มาดามเดียร์” เบอร์หนึ่ง “ผู้พันปราง” จี้ติด ด้าน “นพดล” แนะคนปชป.รวมพลังกู้ศรัทธาดึงพรรคกลับยิ่งใหญ่อีกครั้ง
วันนี้( 8 ธ.ค.)ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลการศึกษา เรื่อง ประชาธิปัตย์ในใจประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพในเขตกรุงเทพมหานครอายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,685 ตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5 - 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95
โดยเมื่อสอบถามถึงผลงานพรรคประชาธิปัตย์ที่จางหายในความทรงจำของประชาชนแต่กลายเป็นความต้องการของประชาชน พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับหนึ่งคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.8 ระบุเป็น กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ) เริ่มในยุครัฐบาล นายชวน หลีกภัย พ.ศ. 2538 ร้อยละ 78.9 ระบุเป็น สิทธิความเท่าเทียมของสตรี ในอาชีพ เช่น นายพลหญิง คนแรก ร้อยละ 76.0 ระบุโครงการนมโรงเรียน เริ่มโดยพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ.2535 ร้อยละ 74.1 ระบุ ปฏิรูปการศึกษา ในยุครัฐบาล นายชวน หลีกภัย สมัย นายสุขวิช รังสิตพล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2538 และร้อยละ 60 ระบุ ปฏิรูปกองทัพ เริ่มยุค นายชวน หลีกภัย เปลี่ยนระบบเกณฑ์ทหาร มีแบบสมัครใจบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ความต้องการเร่งด่วนของประชาชนคนกรุงเทพมหานครต้องการให้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ แสดงความสามารถแก้ไขปัญหา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.2 ระบุต่อยอด ปฏิรูปการศึกษา ร้อยละ 87.9 ระบุ แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ออนไลน์ ภัยไซเบอร์ ร้อยละ 85.7 ระบุ แก้ไขปัญหาปากท้อง สินค้าราคาแพง ร้อยละ 85.2 ระบุ ต่อยอด โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง แก้ไขปัญหายาเสพติด บำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชน ร้อยละ 84.3 ระบุ สานต่อแก้ปัญหาจราจร เช่น ทางด่วน การทางพิเศษฯ รถไฟฟ้า เป็นต้น และร้อยละ 84.3 เช่นกัน ระบุ สานต่อ โครงการนมโรงเรียน ร้อยละ 82.0 ระบุ ส่งเสริม สิทธิเท่าเทียมทางเพศ การศึกษา อาชีพ และร้อยละ 70.0 ระบุต่อยอด ปฏิรูปกองทัพ เปลี่ยนแปลงระบบเกณฑ์ทหาร ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึง คนประชาธิปัตย์ที่ประชาชนอยากให้เป็นหัวหน้าพรรค พบว่า อันดับแรกได้แก่ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ร้อยละ 18.2 อันดับที่สองได้แก่ น.ส.วทันยา บุนนาค ร้อยละ 14.9 อันดับสามได้แก่ นายชัยชนะ เดชเดโช ร้อยละ 14.3 อันดับที่สี่ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ร้อยละ 12.8 อันดับที่ห้าได้แก่ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ร้อยละ 12.4 และอื่น ๆ ร้อยละ 27.4
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามคนประชาธิปัตย์ที่ประชาชนอยากให้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ส่งสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พบว่า จี้ติดเบียดกันมาระหว่าง น.ส.วทันยา บุนนาค ร้อยละ 17.7 และพันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ร้อยละ 17.0 ในขณะที่รอง ๆ ลงมาคือ นายชัยชนะ เดชเดโช ร้อยละ 16.9 นายนราพัฒน์ แก้วทอง ร้อยละ 14.9 และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ร้อยละ 14.6 ในขณะที่ อื่น ๆ ร้อยละ 18.9
ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล กล่าวว่า จะมีคนสักกี่คนที่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานหลายอย่างที่น่าพิจารณาแม้อาจจะจางหายไปในความทรงจำของหลายคนแต่กลายเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะประชาชนในกรุงเทพมหานคร เช่น กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การปฏิรูปการศึกษา โครงการนมโรงเรียน การให้สิทธิแห่งความเท่าเทียมทางเพศในอาชีพ การสานต่อการแก้ไขปัญหาจราจรระยะยาว เช่น ทางด่วน รถไฟฟ้าใต้ดิน การปฏิรูปกองทัพอย่างเป็นทางการ และยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารแบบบังคับเบ็ดเสร็จมาเป็นการสมัครใจบางส่วน
ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นในยุคของนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงที่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน แต่อาจจะเป็นเพราะกลยุทธ์ในการเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากภาคประชาชนต่อพรรคประชาธิปัตย์มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ และที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามประชาชนถึงความต้องการให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แสดงความสามารถแก้ไขปัญหา พบว่า สานต่อปฏิรูปการศึกษามาเป็นอันดับแรก จึงอาจกล่าวได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดแข็งในความทรงจำของประชาชนคนกรุงเทพมหานครคือด้านการศึกษาทั้งในส่วนของการปฏิรูปการศึกษาและกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่มีผลทำให้เด็กและเยาวชนหลายคนกลายเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าทรงพลังของประเทศในทุกวันนี้
“ดังนั้นในวันที่ 9 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ คนพรรคประชาธิปัตย์จะต้องแสดงพลังอันยิ่งใหญ่สยบกระแสลบต่อพรรค มีความซื่อตรงต่อความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์สืบเนื่องมาหลายสิบปียาวนานที่สุดของพรรคการเมืองไทยที่มีอยู่ในทุกวันนี้ ทำให้ถูกต้อง ตามครรลองครองธรรมแห่งประชาธิปัตย์ เพราะความท้าทายที่เป็นโจทย์ใหญ่ ความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนกำลังรอผู้นำทัพคนต่อไปของพรรคประชาธิปัตย์มาสานต่อภารกิจสำคัญและก่อร่างสร้างฐานใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัลให้สำเร็จได้ เช่น สานต่อการปฏิรูปการศึกษาแม้ในเวลาที่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ความทุกข์ของประชาชนต่ออันตรายทางไซเบอร์ โจรและขบวนการมิจฉาชีพทางไซเบอร์ การแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ การสานต่อโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองแก้ไขปัญหายาเสพติดบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนเป็นคนดีของสังคมและชุมชน และสานต่อการแก้ปัญหาจราจร ความปลอดภัยทางถนน เป็นต้น” ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล กล่าว
ผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพล กล่าวต่อด้วยว่า ผลสำรวจครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ประชาชนคนกรุงเทพมหานครอยากเห็นนายนราพัฒน์ แก้วทอง เป็นหัวหน้าพรรค แต่อยากให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ส่ง น.ส.วทันยา บุนนาค แต่จี้ติดเบียดกันมากับ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล มาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะตัดสินใจอย่างไรจากเสียงของประชาชนในผลการศึกษาครั้งนี้