“พวงเพ็ชร” แจงกระเช้าขึ้นภูกระดึง ยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน ชง ครม.วันนี้แค่งบออกแบบก่อสร้าง เพื่อขออีไอเอ ระบุ ต้องการพัฒนาให้เที่ยวได้ทั้งปี
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่โรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ อ.เมือง จ.หนองบัวลําภู นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณี จ.เลย ของบประมาณดำเนินการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง จะใช้งบจากส่วนไหน และจะมีการอนุมัติในที่ประชุม คณะรัฐมนครี (ครม.) วันนี้หรือไม่ ว่า ขอชี้แจงเพื่อไม่ให้เป็นการคลาดเคลื่อน เนื่องจากเมื่อวาน (3 ธ.ค.) ตนได้ไปตรวจราชการที่ จ.เลย และคุยกับทางจังหวัดเรื่องงบประมานต่างๆ ที่จะขอในการประชุม ครม.วันนี้ ซึ่งมี 4 ด้าน ได้แก่ 1. ปัญหาความยากจน 2. ยาเสพติด 3. การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน และ 4. เรื่องการเกษตร ในส่วนงบประมาณที่ทาง จ.เลย จะขอนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการสำรวจออกแบบก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง ซึ่งตามมติ ครม.เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2555 เห็นชอบให้มีองค์การบริหารพื้นที่พิเศษ (อพท.) ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเห็นชอบ ว่า จ.เลย มีหลายจุดที่จะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยงบที่จะขอจำนวน 28 ล้านบาทนั้น เป็นค่าสำรวจและออกแบบการก่อสร้าง ซึ่งการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องมีแบบแปลนอันนี้เพื่อแนบในการขออีไอเอ ดังนั้น ทางจังหวัดจึงต้องออกแบบเพื่อประกอบการพิจารณาของกระทรวงทรัพย์ จากนั้นเมื่อเห็นชอบอีไอเอแล้ว ก็จะส่งไปให้ทาง อพท.ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้ง
“อยากแจ้งให้ทราบว่าวันนี้เป็นเพียงการของบออกแบบสำรวจก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม เหตุที่ล่าช้าและยังไม่ได้ออกแบบ เพราะเนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพิ่งอนุมัติเพิ่งจะอนุมัติอนุมัติให้เข้าพื้นที่ได้เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จึงเพิ่งเริ่มเข้าไปสำรวจได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังมีกลุ่มต่อต้านอยู่หรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ขณะนี้ จ.เลย เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะหน้าหนาวที่จะไปแค่ภูเรือ หรือเชียงคาน แต่เราต้องทำการท่องเที่ยวทั้งปี ทุกเดือน ให้มีนักท่องเที่ยวตลอด ฉะนั้น จึงอยากให้มีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เรื่องนี้โครงการอนุมัติมา 20-30 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีการดำเนินการสักที ในฐานะอดีต ส.ส.เลย อยากเห็นโครงการนี้ดำเนินไปเพื่อคนจังหวัดเลย ส่วนในเรื่องการต่อต้านนั้น เมื่อก่อนจากการศึกษามีทางขึ้น 2 ทาง คือ ทางที่ยังเป็นทางเดินเท้าอยู่ ส่วนอีกทางด้านหลังจะเป็นกระเช้า เป็นคนละทางกัน ใครอยากได้ฟีลลิ่งการเดินก็เดินขึ้นไป คนแก่คนเฒ่าอยากจะเห็นยอดภูเรือ หรือเมืองเลย ก็ไปขึ้นด้านกระเช้า เมื่อเป็นความเจริญของ จ.เลย แล้ว ทุกคนคงเห็นชอบ ถ้ามียอดรายได้เข้าจังหวัดมากมาย และต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนทั้งไทยและต่างประเทศ.