“เศรษฐา” เผย เตรียมลงพื้นที่ดูปัญหาฝุ่น PM 2.5 อีกครั้งด้วยตัวเอง เมื่อเข้าช่วงวิกฤต ประมาณปลาย ม.ค.- ก.พ. ย้ำ เป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะอากาศสะอาด เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ระบุ ส่งหน่วยงานลงพื้นที่เข้ม แก้ปัญหาเผาซังข้าวโพด
วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรมสีหราช จังหวัดอุตรดิตถ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการลงพื้นที่ต่างจังหวัดติดต่อเป็นจำนวนหลายวันได้ทราบถึงปัญหาต่างๆ ซึ่งเราลงพื้นที่ก็อยากจะมารับฟังปัญหา เพื่อที่จะหาทางแก้ไข อย่างเมื่อวานได้ฟังปัญหาเรื่องของฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งมาจากการเผาป่า ซึ่งมาจากการเผาป่า ปัญหาใหญ่ทุกปัญหาก็เกิดมาจากการที่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้เกษตรกรที่มีตอข้าวและสั่งข้าวโพดก็ต้องเผาว่าเป็นวิธีที่จะกำจัดได้เร็วที่สุด และทำให้ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในเรื่องของ PM 2.5 แต่ปีนี้รัฐบาลจะมีการผลักดันพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเข้าสู่สภา และเมื่อวานนี้ก็ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.พัชรวาทวงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้มาพบปะพูดคุยกับภาคเอกชน และทุกภาคส่วน พร้อมในการที่จะทำให้ปัญหา PM 2.5 ลดลงอย่างมีนัยยะ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เช้าวันเดียวกันนี้ (30 พ.ย.) ก็ได้เจอกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้พูดคุยกันว่าเราจะต้องทำอะไรกันบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อกลับไป ก็ต้องไปพูดคุย โดยเฉพาะฝ่ายทหารที่น่าจะมีส่วนช่วยได้อย่างสูงสุด คาดว่าน่าจะเป็นปลายเดือนมกราคม เข้าสู่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่จะเข้าสู่ช่วงวิกฤตจริงๆ ตนก็จะมาลงพื้นที่ อีกครั้งหนึ่ง วานนี้ (29 พ.ย.) เป็นการคุยกันในเรื่องทฤษฎี แต่การลงมาพื้นที่จริงก็คงจะได้ดูปัญหาในการรับพื้นที่อีกครั้ง ปัญหานี้ต้องหมดไปเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ของประชาชน ก็คืออากาศสะอาด ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ
เมื่อถามว่า จะขีดเส้นตายให้กับหน่วยงานในการแก้ปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องการกำหนดเดตไลน์แต่เป็นเรื่องที่ใกล้จะเข้าสู่ฤดูไฮซีซัน ดังนั้น เคพีไอก็จะต้องลดลงครึ่งหนึ่งคือ 50% เป็นเป้าที่วางไว้ให้กับทุกภาคส่วน
เมื่อถามถึงแนวทางที่จะรับซื้อตอซังข้าวโพด จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา เราก็ต้องไปคุยกับหน่วยงานที่จะต้องมารับซื้อตรงนี้ด้วย ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะลดให้ได้ครึ่งนึงก่อน
เมื่อถามถึงต้นตอที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ การเผาอ้อยเพื่อป้อนโรงงาน ที่เป็นปัญหามานานแล้วและโรงงานก็มักจะอ้างว่าไม่ได้ให้เผา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันมีเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต้องให้หน่วยงานลงพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยต้องพึ่งหน่วยงานความมั่นคงจากกอ.รมน. ซึ่งก็จะกลับไปพูดคุยกันอีกครั้งนึงเพราะต้องพยายามอย่างเต็มที่ ตนเองก็จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองอีกครั้งด้วย และก็จะมีการพูดคุยกับทางโรงงานน้ำตาลอีกทีด้วยเช่นกัน