ประธาน กมธ.เกษตรฯ เผย กมธ.ล็อกเป้า 3 ประเด็นคลี่คลายปัญหาหมูเถื่อน จ่อเรียกรัฐบาลแจงปมเด้งอธิบดีดีเอสไอ แนะ นายกฯ อย่าปล่อยสังคมคาใจ
วันนี้ (29 พ.ย.) นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องปัญหาหมูเถื่อนว่า ทาง กมธ.ฯ เป็นกลไกหนึ่งที่จะได้ทำหน้าที่แทนประชาชน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญว่ากระบวนการนี้มีต้นสายปลายเหตุเป็นมาอย่างไร ซึ่งใน กมธ.ฯ จะตรวจสอบ โดยในวันนี้เป็นวาระของกมธ.ฯ ที่มาพูดคุยกันจะมีเรื่องปัญหาที่รับมาจากในพื้นที่ และจะนำเข้ามาหารือ ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องหมูเถื่อนก็จะมีการพูดคุยในวันนี้เช่นกัน และอยากจะเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาให้ข้อมูลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่จะถามต่อดีเอสไอมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นอดีตรัฐมนตรี และเราตั้งความคาดหวังหรือไม่ว่า จะสามารถเปิดเผยชื่อรัฐมนตรี ป. ได้หรือไม่ กล่าวว่า หวังว่าอย่างนั้น เราก็ต้องทำความเป็นจริงให้ปรากฎ จริงๆคนที่รวบรวมข้อมูลในส่วนการดำเนินคดี และหลักฐานต่างๆ ทางดีเอสไอก็ต้องมีข้อมูลที่จะบอก ทางเราและประชาชนก็อยากรู้ถึงผลกระทบเหล่านี้ โดยกมธ.ฯ จะเป็นสื่อกลางและทำเต็มที่เพื่อให้ได้ข้อมูลตรงนี้
เมื่อถามว่า กมธ.ฯ ติดใจหรือไม่ว่ามีการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อดีตอธิบดีดีเอสไอ นายศักดินัย กล่าวว่า ก็ชวนให้สงสัยได้ว่าทำไม เพราะคราวที่แล้วนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ได้แสดงอาการไม่ค่อยพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และหลังจากที่ทางดีเอสไอได้เข้าไปตรวจสอบที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง วันต่อมาก็ได้มีการโยกย้ายอธิบดีไปเลย จึงชวนให้สงสัยได้ว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งก็จะติดตามข้อมูลตรงนี้ ทั้งนี้ ต้องดูด้วยว่าโยกย้ายด้วยประเด็นอะไร มีสาเหตุอะไร แต่หากไปตรวจห้างค้าปลีกและถูกย้ายทันที สังคมก็สามารถตั้งคำถามได้ ซึ่งเราเองก็สงสัย และจะถามเรื่องนี้แทนประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า มองอย่างไรที่มีการโยกย้ายในจังหวะที่ใกล้จับรายใหญ่ได้ นายศักดินัย กล่าวว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้น ประชาชนก็สงสัยได้ เราเองก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงดำเนินการในจังหวะนี้ได้ และอยู่ในช่วงที่กำลังเห็นภาพชัดว่ามีกระบวนการใหญ่ ส่วนตัวมองว่าควรให้เขามีการดำเนินการก่อน ให้เขาทำงานพิสูจน์หาข้อเท็จจริงก่อน แต่การโยกย้ายแบบนี้ก็ต้องมีการสอบถามไปยังรัฐบาลว่าสาเหตุคืออะไร ส่วนนายกฯจะต้องชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ ก็ควรชี้แจง ไม่ควรจะปล่อยให้สังคมสงสัยอยู่แบบนี้
“ต้องบอกว่าท่านนายกฯ ตกลงจะเอาจริงเอาจังเรื่องนี้หรือไม่ ท่านนายกฯก็ควรจะมาพูดคุยให้ประชาชนให้เข้าใจว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง ไม่พอใจเรื่องอะไร ทางดีเอสไอที่มีการดำเนินการและทำไมต้องมีการโยกย้าย ก็ชวนให้สงสัยว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ ” นายศักดินัย กล่าวว่า
เมื่อถามว่า จะมีการเชิญหน่วยงานอื่นหรือไม่ นอกจากดีเอสไอ นายศักดินัย กล่าวว่า ต้องดูกระบวนการการนำเข้าหมูเถื่อนมาที่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นประตูด่านแรกในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ มีการตรวจสอบให้ตรงกับใบที่แสดงไว้หรือไม่ และทางดีเอสไอมีการบอกมาแล้วว่ามีผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการก็ต้องดูว่ามีใครบ้าง และกมธ.ฯ ก็จะดูประเด็นต่างๆ อาทิ 1.ได้มีการยกระดับมาตรการตรวบสอบและควบคุมอย่างไร 2.หมูเถื่อนที่จับได้แล้วมีปริมาณจำนวนมากจะจัดการอย่างไร ทั้งเรื่องการฝังกลบจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ 3.กมธ.ฯต้องดูว่าการนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาเพราะราคาหมูในประเทศเราแพงใช่หรือไม่ ซึ่งเมื่อดูโครงสร้างการเลี้ยงหมูในประเทศ รวมถึงราคาอาหารสัตว์มีราคาสูงมาก ซึ่งย้อนแย้งกับราคาวัตถุดิบ เช่น ราคาข้าวโพด โดยทางกมธ.ฯจะดูว่า จะยกระดับพัฒนาเพื่อใหเกษตรกร สามารถแข่งขัยในตลาดได้ เราไม่ต้องการเห็นเกษตรกรล้มหายตายจากไปและเหลือแต่กลุ่มผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ เป็นเรื่องที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการทำลายซากหมู ต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่สุดท้ายต้องหาทางส่งเสริมเกษตรกรให้มีความสามารถในการที่จะแข่งขันได้
เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ว่า ทางการจะสามารถหาคนมาเอาผิดในเรื่องนี้ นายศักดินัย กล่าวว่า “เราอยากเห็นการดำเนินการ ปริมาณหมูเถื่อนมหาศาลขนาดนั้น แต่สุดท้ายไม่มีคนผิด เราอยากให้กำลังใจคนที่ทำงาน และลงโทษคนที่ทำผิด อย่าลงโทษคนที่ตั้งใจทำงาน”