xs
xsm
sm
md
lg

“ก้าวไกล” พล่าน ดัน “นิรโทษ” ล้างผิด-พ้นคุก!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  - ชัยธวัช ตุลาธน
เมืองไทย 360 องศา

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นการเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล ในลักษณะที่ “ร้อนรน” จนผิดสังเกต กับการจะผลักดันพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งคาดว่า หากเป็นไปได้ ก็น่าจะเสนอเข้าสู่สภาในสมัยประชุมหน้า ซึ่งเป็นสมัยประชุมเพื่อพิจารณากฎหมาย

ก่อนหน้านี้ ราวสี่ห้าวันที่ผ่านมา ระดับแกนนำของพรรคก้าวไกลได้เดินสายขอความเห็น และแลกเปลี่ยนกับคนในแวดวงการเมือง กลุ่มการเมือง และเท่าที่มีการเปิดเผยออกมา ก็คือ กรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลและคณะ ได้เข้าพบกับ อดีตพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เพื่อขอความเห็น และขอความสนับสนุนในร่างกฎหมายดังกล่าวมาแล้ว

สำหรับ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ.... ที่พรรคก้าวไกล กำลังผลักดันเข้าสภา แม้ว่าในตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพราะอยู่ในขั้นของการรับฟังความเห็น และขอเสียงสนับสนุน แต่เมื่อพิจารณาจากท่าทีและความน่าจะเป็น เมื่อดูจากตัวบุคคลของพรรค ผู้สนับสนุนพรรค รวมไปถึงบุคคลที่พรรคสนับสนุนที่ถูกดำเนินคดี ถูกตัดสินจำคุก รวมไปถึงกำลังจะถูกจำคุก โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับความผิดตาม มาตรา 112 แล้ว เชื่อว่า น่าจะ “เหมารวม” ความผิดในเรื่องดังกล่าวเข้าไปอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน ที่น่าจับตาก็คือ พรรคก้าวไกล ยังถูกทนายความอิสระ และเป็นอดีตทนายความของอดีตพุทธะอิสระ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรค จากข้อกล่าวหาว่า “ล้มล้างการปกครอง” จากกรณีเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคลในวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคมนี้
อีกทั้งจากข้อมูลจากปากของ อดีตพุทธะอิสระ ยังระบุว่า พรรคก้าวไกล ยังมีคดีล้มล้างการปกครองที่ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งยังมีคดี ป.อาญา มาตรา 112 และ มาตรา 116 ที่เจ้าของพรรคและคดีที่หัวหน้าพรรคพร้อมพวก ต่างล้วนต้องขึ้นศาลไปรับฟังการตัดสินกันอีกหลายคน ที่รอต่อคิวอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 คน
“อาจเป็นเพราะคนพรรคก้าวไกลมีคดี 112 อยู่มากมายดังกล่าว เจ้าของพรรคและหัวหน้าพรรคเฉพาะกิจ จึงร้อนรนอยากหาคนสนับสนุนให้ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม โดยเฉพาะ มาตรา 112 ต้องนิรโทษให้ได้ เพราะกลัวเจ้าของพรรค และบริวารติดคุกไงล่ะ จึงต้องบากหน้ามาหาพุทธะอิสระ” อดีตพุทธะอิสระ ตั้งข้อสังเกต หลังการเข้าพบของนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้น ก็โดนบรรดาผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล หรือ “ด้อมส้ม” โพสต์โจมตี ด่าทออย่างรุนแรง
“ขอเตือนว่า หากยังทำปากกล้า ขาสั่น เข้ามาคอมเมนต์ด่าพุทธะอิสระอยู่อีก จะนำหลักฐานเด็ดที่ออกมาจากปากหัวหน้าพรรคก้าวไกลเอง ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีคำสั่งให้ไต่สวนพยานบุคคล ในวันที่ 25 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ ทนายของพุทธะอิสระ ไปยื่นคำร้องกรณีพรรคก้าวไกล มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง ดังที่ปรากฏเป็นข่าว”

จากคำพูดของ พุทธะอิสระ และในความเป็นจริงทำให้ได้เห็นว่า เวลานี้มีแกนนำพรรคก้าวไกล ตั้งแต่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค รวมไปถึง ส.ส.ของพรรคนี้หลายคน ที่กำลังถูกดำเนินคดี หลายคนในจำนวนนั้นมีคดี มาตรา 112 ติดตัว และกำลังจะมีการทยอยพิพากษาในอีกไม่นานนี้ หรือแม้แต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เชื่อว่า เป็น “เจ้าของพรรค” ก้าวไกล ตัวจริง ก็มีคดี 112 และถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี

จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้หลายคนเริ่มปะติดปะต่อให้เห็นภาพ ว่า นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ได้เห็นการเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล ในลักษณะที่ว่า เป็นอาการที่ “ร้อนรน” สำหรับความพยายามผลักดันเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งเชื่อว่าจะมีเนื้อหาลบล้างความผิดผู้ที่ถูกดำเนินคดี มาตรา 112 ไปด้วย
อย่างไรก็ดี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ย้ำว่า หากดูเนื้อหาสาระทั้งหมดของร่างพระราชบัญญัตินิรโทษฯ ของพรรคที่เสนอแล้ว จะเห็นได้ว่า ไม่มีการเลือกปฏิบัติให้กับใครทั้งนั้น แต่ต้องการทำให้กฎหมายสามารถธำรงความยุติธรรมให้กับทุกคน ในความเป็นจริงคนที่จะได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมไม่จำกัดอยู่แค่คนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนที่เข้าเงื่อนไขล้วนมีสิทธิได้รับการนิรโทษกรรม แม้แต่คนของพรรคเพื่อไทยเอง ที่วันนี้หลายคนไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคนชั้น 14 หลายคนถูกดำเนินคดีกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งน่าเสียดายที่เรายังไม่เคยได้เห็นพรรคเพื่อไทยเองออกมาเคลื่อนไหวปกป้องหรือเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนเหล่านี้

“มีคนเดียวที่เหมือนจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด คือ คนที่อยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ การนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล เป็นการเลือกปฏิบัติตรงไหน ผลของกฎหมายนี้ถ้าผลักดันสำเร็จ คือ การคืนความเป็นธรรมให้คนรุ่นใหม่ คนเสื้อแดง ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยทั้งหมด ไม่เหมือนการเลือกปฏิบัติ ให้อดีตนายกรัฐมนตรี หรือการเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง เพื่อใครคนใดคนหนึ่งเสียหน่อย” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อไปว่า การกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลสร้างการเลือกปฏิบัติไม่เป็นความจริง และเป็นการใส่ร้ายทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นถึง ส.ส. สิ่งที่ควรจะทำก่อนมาพูดออกสื่อ คือ การไปดูเนื้อหาสาระของร่างกฎหมาย ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ควรพูด ถ้าจะพูดก็ควรไปดู ร่างฯ และถ้าได้ไปดูมาแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ได้พูดออกมา ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น

แม้ว่าในเวลานี้หากพิจารณาจากท่าทีจากบางกลุ่ม อาจจะมีท่าทีค่อนข้างเห็นด้วยกับการเสนอกฎหมาย “นิรโทษกรรม” แต่ก็ยืนยันไม่เห็นด้วย หากมีการรวมเอาการนิรโทษความผิด มาตรา 112 เข้าไปด้วย เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่ความผิดทางการเมือง แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง และมีเจตนาบ่อนทำลายสถาบันฯ อย่างจงใจ และที่สำคัญ หากมีการนิรโทษกรรมจริง หลายคนไม่เชื่อว่า บรรดาผู้ที่กระทำความผิดเหล่านั้นจะเกิดความสำนึก ยังอ้างว่าเป็นสิทธิ เสรีภาพ ของพวกเขา ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งลุกลามขึ้นมาอีก
ดังนั้น หากพิจารณาในภาพรวมเท่าที่เห็นในเวลานี้ ฝ่ายที่มีเจตนาเดินหน้าเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม ในเวลานี้น่าจะมีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้น เนื่องจากมีทั้ง “เจ้าของพรรค” และคนของพรรค รวมไปถึงคนที่พรรคให้การสนับสนุนถูกดำเนินคดีจำนวนมาก และคดีกำลังเดินมาใกล้คุกเต็มทีแล้ว จึงเกิดอาการร้อนรน ทำทุกทางเพื่อล็อบบี้ ขอแรงสนับสนุน แต่เมื่อมองเห็นท่าทีจากฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังเกิดอาการแหยงในลักษณะไม่กล้าหายใจแรง เพราะเกรงจะกระเทือนไปถึง “ชั้น 14” หรือเปล่า เอาเป็นว่า “ของร้อน” ผ่านยากก็แล้วกัน !!


กำลังโหลดความคิดเห็น