"ใบพลู" แนะ “อนุสรณ์” กลับไปอ่านร่างนิรโทษกรรมของก้าวไกลให้ละเอียดก่อนออกมากล่าวหาเอื้อพวกพ้อง-เลือกปฏิบัติ ชี้สาระสำคัญของร่าง ต้องการคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนทุกคน ไม่ใช่เอื้อแค่คนชั้น 14-ใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง
วันที่ (27 พฤศจิกายน 2566) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ต่อกรณี อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายพูดคุยเรื่องแนวทางนิรโทษกรรมกับอดีตพระพุทธอิสระ ในทำนองว่าการนิรโทษกรรมควรเป็นการดำเนินการเพื่อทุกคนทุกฝ่าย ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง หรือทำเพื่อพวกพ้องของตัวเอง
.
นายรังสิมันต์ ระบุว่าการที่พรรคก้าวไกลเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น ก็เนื่องจากปัญหาทางการเมืองในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงการใช้นิติสงครามในกฎหมายหลายฉบับ เพื่อจำกัดการแสดงออกของประชาชน กลายเป็นปัญหารากฐานสำคัญที่ทำให้การเมืองของประเทศไม่สามารถเดินต่อได้ การนิรโทษกรรมโดยมีการหารือร่วมกับตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ ทั้งฝั่งการเมือง ฝั่งราชการ คือกระบวนการที่จะนำไปสู่การสร้างความยุติธรรมให้กับประชาชนทั้งที่กำลังถูกดำเนินคดี ถูกดำเนินคดีไปแล้ว และยังไม่ถูกดำเนินคดีแต่มีแนวโน้มจะถูกดำเนินคดี
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไป ว่าถ้าดูเนื้อหาสาระทั้งหมดของร่างฯ จะเห็นได้ว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติให้กับใครทั้งนั้น แต่ต้องการทำให้กฎหมายสามารถธำรงความยุติธรรมให้กับทุกคน ในความเป็นจริงคนที่จะได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมไม่จำกัดอยู่แค่คนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนที่เข้าเงื่อนไขล้วนมีสิทธิได้รับการนิรโทษกรรม แม้แต่คนของพรรคเพื่อไทยเอง ที่วันนี้หลายคนไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนคนชั้น 14 หลายคนถูกดำเนินคดีกลั่นแกล้งทางการเมือง ซึ่งน่าเสียดายที่เรายังไม่เคยได้เห็นพรรคเพื่อไทยเองออกมาเคลื่อนไหวปกป้องหรือเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนเหล่านี้
.
“มีคนเดียวที่เหมือนจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด คือคนที่อยู่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ การนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลเป็นการเลือกปฏิบัติตรงไหน ผลของกฎหมายนี้ถ้าผลักดันสำเร็จ คือการคืนความเป็นธรรมให้คนรุ่นใหม่ คนเสื้อแดง ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยทั้งหมด ไม่เหมือนการเลือกปฏิบัติให้อดีตนายกรัฐมนตรีหรือการเป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองเพื่อใครคนใดคนหนึ่งเสียหน่อย” รังสิมันต์กล่าว
.
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อไป ว่าการกล่าวหาว่าพรรคก้าวไกลสร้างการเลือกปฏิบัติไม่เป็นความจริง และเป็นการใส่ร้ายทางการเมือง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง อนุสรณ์เป็นถึง สส. สิ่งที่ควรจะทำก่อนมาพูดออกสื่อคือการไปดูเนื้อหาสาระของร่างกฎหมาย ถ้าไม่รู้ก็ไม่ควรพูด ถ้าจะพูดก็ควรไปดูร่างฯ และถ้าได้ไปดูมาแล้วก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ได้พูดออกมาไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น