เมื่อวันที่ 23 พ.ย. เวลา 14.00 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ครั้งที่ 7/2566 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เพื่อติดตามความคืบหน้ากระบวนการพัฒนาและปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร
ตามที่ประชุม คปก. ครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบร่างระเบียบ คปก. เพื่อดำเนินการปรับปรุงสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร จำนวน 3 ฉบับ โดยมอบหมายให้ ส.ป.ก. นำร่างระเบียบทั้ง 3 ฉบับ ไปจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนำความคิดเห็นประกอบการพิจารณาจัดทำร่างระเบียบ คปก. เพื่อเสนอ คปก. พิจารณา ทาง ส.ป.ก. ได้ดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไป รวมถึงกลุ่มเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ผ่านระบบกลางทางกฎหมาย ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 มีกำหนดระยะเวลา 16 วัน มีผู้เข้าชมร่างระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ รวมจำนวนทั้งสิ้น 8,232 ราย มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นร่างระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ แบ่งเป็น เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร จำนวน 228 ราย เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 459 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐอื่น จำนวน 191 ราย และบุคคลทั่วไป จำนวน 118 ราย รวมทั้งสิ้น 996 ราย ทั้งนี้โดยสรุปผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมดส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบกับร่างระเบียบที่แก้ไข ทั้ง 3 ร่าง
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) เปิดเผยว่า การประชุม คปก. ในครั้งนี้มีมติสำคัญ ดังนี้ ๑) มีการแก้ไขปรับปรุงเกี่ยวกับชื่อเอกสารจากเดิม“โฉนดเพื่อเกษตรกรรม” เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร”และใช้ครุฑ “สีเขียว” ๒) การกำหนดพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ จะต้องเป็นแปลงที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี มีฐานข้อมูลรายแปลงตรงกันกับระบบจัดที่ดินออนไลน์ (Alro Land Online) และไม่มีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ มีการเปิดให้ยื่นความประสงค์ขอออกโฉนดเพื่อเกษตรกรรมออนไลน์ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรที่เข้าเงื่อนไขกว่า 1.6 ล้านราย ทั้งนี้ ส.ป.ก. ได้ดำเนินงานจัดทำกระบวนการพัฒนาและปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการออกโฉนดเพื่อการเกษตร ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและสอดคล้องกับระเบียบกฎหมายที่อยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไข ซึ่ง ส.ป.ก. จะนำร่างระเบียบ คปก. ทั้ง 3 ฉบับ ที่ได้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลับมาให้ คปก. เห็นชอบร่างครบทั้ง 3 ฉบับ เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และจะเริ่ม Kick off แจกโฉนดเพื่อการเกษตรฉบับแรกพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 15 มกราคม 2567 โดยมีเกษตรกรที่เข้าเงื่อนไข จำนวน 1,628,520 ราย เอกสารสิทธิรวม 2,205,561 ฉบับ เนื้อที่รวม 22,079,407.67 ไร่ ส.ป.ก. จะเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่างๆ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้
รมว.กษ. กล่าวเพิ่มเติมว่า พี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้และจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โฉนดเพื่อการเกษตรฉบับแรกจะสามารถแจกให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามต้องยึดผลประโยชน์ที่พี่น้องเกษตรกรจะได้รับเป็นหลักที่สำคัญการเปลี่ยนเป็นโฉนดครั้งนี้จะส่งผลให้มูลค่าที่ดิน ส.ป.ก. เพิ่มมากขึ้น โดยเกษตรกรจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างหลากหลาย และขอฝากทิ้งท้ายเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรใช้สิทธิ์ยื่นลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอออกโฉนดเพื่อการเกษตรกันเยอะๆ โดยสามารถยื่นได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นด้วยตนเอง ณ ส.ป.ก.จังหวัด ผ่านช่องทางศูนย์บริการประชาชน โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการ และอีกช่องทางหนึ่งคือ ผ่านระบบบริการออนไลน์ ของส.ป.ก. โดยเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัด จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน อย่างไรก็ตามก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย