วันนี้ (23 พ.ย.) นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยความคืบหน้าผลการประชุมคณะอนุกรรมาธิการญัตติพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และลุ่มน้ำทะเลสาบอื่นๆ อย่างยั่งยืน โดยระบุว่า ตามที่คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการญัตติพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและลุ่มน้ำทะเลสาบอื่นๆ อย่างยั่งยืน ขึ้นเพื่อรวบรวมผลการศึกษา ข้อเสนอแนะที่เคยมีการศึกษามาก่อนหน้านี้ และข้อมูลทางวิชาการ เพื่อกำหนดประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและพื้นที่ลุ่มน้ำอื่นๆ และจัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหาพร้อมข้อเสนอแนะต่างๆ ก่อนนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับทราบ และนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหานั้น ปัจจุบัน คณะอนุกรรมาธิการได้มีการประชุมแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง โดยมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล อาทิ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สงขลา, จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช กรมชลประทาน กรมประมง กรมทรัพยากรน้ำ
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีต ส.ส.พัทลุง หลายสมัย และอดีตหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหลายแห่ง มาให้ความเห็นและเป็นที่ปรึกษาแก่คณะอนุกรรมาธิการ ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงานที่มาร่วมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในด้านสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหา อุปสรรค การฟื้นฟู และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายร่มธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมาธิการได้พิจารณาและศึกษาข้อมูล พบว่า สภาพปัจจุบันของทะเลสาบสงขลากำลังประสบปัญหาหลากหลายด้าน ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติที่ลดลง มลพิษน้ำเสีย ปัญหาการใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาคุณภาพน้ำ ปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็ม ปัญหาด้านตะกอนในทะเลสาบ และปัญหาด้านการบริหารจัดการ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ไฟป่า การบุกรุกที่ป่า ปัญหาวัชพืช และปัญหาการจัดการน้ำเสียจากชุมชน ภาคการเกษตร และภาคปศุสัตว์ที่ทำให้คุณภาพน้ำแย่ลง และข้อมูลการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ทะเลสาบสงขลาไม่มีการเก็บข้อมูลหรือทำรายงานในเรื่องดังกล่าวมามากกว่า 10 ปี ทำให้ข้อมูลที่มีอยู่ไม่เป็นปัจจุบันและไม่สามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการได้ ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของปัญหา วิเคราะห์จุดอ่อน และอุปสรรคของการบริหารจัดการ รวมทั้งเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ และนำไปสู่การฟื้นฟู อนุรักษ์ และพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยการจัดทำเป็นแผนแม่บทการบริหารจัดการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเพื่อบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
“การศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาของคณะอนุกรรมาธิการญัตติพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและลุ่มน้ำทะเลสาบอื่นๆ อย่างยั่งยืน มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงและกำหนดการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำเป็นแผนแม่บทการบริหารจัดการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และเตรียมพร้อมนำเสนอต่อสภาได้ทันตามกรอบระยะเวลาอย่างแน่นอน” นายร่มธรรม กล่าว
