วันนี้(22 พ.ย.)นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการทำบุญอุมเราะห์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตนได้เดินทางกลับประเทศไทยทันที และรีบลงพื้นที่ร่วมกับ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พร้อมด้วย นายอำเภอสุไหงโก-ลก,ผอ.ชลประทาน,รองผู้การนราธิวาส และผู้กำกับ สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อสังเกตุการณ์ระดับนํ้าในเขตพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก บ้านมูโนะ และเทศบาลตำบลบูเก๊ะตา เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำฝนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ฝนตกหนักมาหลายวัน
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ไปจนถึง ธ.ค.ของทุกปี พื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้จะต้องเผชิญกับมรสุมฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก อย่างเมื่อตอนปี 65 ที่ผ่านมา ในอำเภอสุไหงโก-ลก มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 ครัวเรือน จำนวนประมาณ 20,000 คน ในปีนั้นน้ำท่วมบริเวณตลาดมูโนะเต็มพื้นที่หลังจากที่พนังกั้นน้ำเก่า ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกแตก ทำให้กระแสน้ำได้ท่วมเพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้าง รวมทั้งกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยว บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
“หากเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงมาก ถือเป็นความเสียหายอย่างหนักต่อพี่น้องประชาชน อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้น้ำมีความเชี่ยวกราก ส่งผลทำให้ตลิ่งชำรุดและเกิดความเสียหาย ดังนั้น เราจึงต้องเฝ้าระวังเหตุอุทกภัย และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ในยามเกิดเหตุ โดยขณะนี้ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเฝ้าสังเกตุการณ์ และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว เพราะความห่วงใย..มันรอไม่ได้ ”นายสัมพันธ์ กล่าว
ด้านนายอามิทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อรับฟังและบรรยายสรุปเรื่องปริมาณน้ำ รวมถึงแผนรับมือของกรมชลประทาน และการป้องกันน้ำท่วม แบริเออชั่วคราว ที่บ้านตันหยงมะลิ เพื่อการป้องกันน้ำเข้าท่วม ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จากการที่ได้ดูและสำรวจ เบื้องต้นเชื่อว่าปีนี้มาตรการทางเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ได้มีมาตรการป้องกันไว้อย่างรัดกุม และเชื่อว่าเราน่าจะผ่านวิกฤตน้ำท่วมในปีนี้ไปได้