นายกฯ ร่วมประชุม ส.ส.เพื่อไทย แจ้งข่าวดี เตรียมแถลงนโยบายปลดหนี้ 12 ธ.ค. นี้ ชูไอเดีย ให้นายอำเภอ - หน่วยงานท้องถิ่น - ตำรวจ ร่วมแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
วันนี้ (21 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวในการประชุมพรรคเพื่อไทย ว่า รัฐบาลจะประกาศแนวทางการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยขอแบ่งหนี้ออกเป็น 2 ส่วน คือหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบที่มีสัดส่วนค่อนข้างใหญ่ โดยจะมีการประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาภายในสัปดาห์นี้ โดยมีแนวทางที่จะเชิญนายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจของแต่ละท้องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเรียกเจ้าหนี้ และลูกหนี้มาหารือกัน เรื่องหนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ถือเป็นการประชุมครั้งแรก
ส่วนเรื่องการจำกัดหนี้นอกระบบ นายกฯ ระบุว่า เป็นเรื่องใหญ่มาก จึงขอฝากให้ สส. ในพรรคไปพูดคุยกับหน่วยวานที่เกี่ยวข้อง ให้ไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงติดตามผลการแก้ไขด้วย
ส่วนปัญหาหนี้ในระบบ รัฐบาลเองก็มีการแถลงหลายนโยบายในการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มครู เอสเอ็ม ตำรวจ และประชาชนหลายภาคส่วน ที่ประสบปัญหาหนี้สินมาตั้งแต่โควิด 19 รวมถึงหนี้ กยศ. โดยรัฐบาลจะมีการแถลงข่าวใหญ่เรื่องการแก้ปัญหาหนี้ 12 ธ.ค. นี้ คาดหวังว่าแนวทางที่แถลงจะแก้ปัญหาได้ ทำให้หนี้นอกระบบ และในระบบได้แก้ปัญหาแบบบูรณาการ
นายเศรษฐา กล่าวถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการสองส่วน คือพบปะนักธุรกิจของสหรัฐอเมริกา และพบปะผู้นำประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเล่าถึงการพบปะนักธุรกิจใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ ทั้งอเมซอน เฟสบุ๊ค ไมโครซอฟต์ แอปเปิ้ล ว่ากลุ่มนักธุรกิจเหล่านี้เข้ามาพูดคุยกับเราด้วยท่าทีเป็นมิตร
กลุ่มธุรกิจที่มาคุยส่วนใหญ่ จะต้องใช้ระบบนิคมอุตสาหกรรมในการผลิต ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้เตรียมพบปะกับผู้บริหารบีโอไอของแต่ละพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจในการลงทุน จัดหาสิทธิประโยชน์ให้กับบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของไทย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ผู้บริหารของบริษัทแอปเปิ้ล ได้ติดต่อขอพูดคุยกับตัวแทนของประเทศไทย โดยมีการปรึกษาหารือเรื่องการใช้ซัพพลายเชนส์ ที่มีคุณภาพของไทย และแอปเปิ้ลได้บอกข้อมูลว่าคนเขียนแอพลิเคชั่นในไทยมากถึง 3 แสนคน ถือเป็นจำนวนที่มาก อยู่ในอันดับที่ 2 ของอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย
นายเศรษฐา กล่าวว่า จากข้อมูลที่แอปเปิ้ลมาหารือนั้น ทำให้ตนเองมองเห็นโอกาสในการพัฒนา โดยมีแนวทางให้นักพัฒนาผู้ผลิตแอพในประเทศไทย พัฒนาร่วมกับสถานศึกษา ยกตัวอย่างจังหวัดเชียงใหม่ที่มีนักพัฒนามากที่สุดในประเทศ อาจร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีข้อเสนอให้ตั้งห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ในต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยได้