วันนี้(18 พ.ย.)น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายตั้งเป้าหมายให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปีนั้น ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ย้ำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูง พัฒนาทรัพยากรเกษตรให้ยั่งยืน เพื่อให้ภาคเกษตรไทยคือผู้นำสินค้าเกษตรในตลาดโลก โดยหนึ่งในนโยบายที่ให้ความสำคัญ คือ การผลักดันส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรสร้าง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพื่อสร้างรายได้ สร้างโอกาสให้พี่น้องเกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการทำเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Go Green) ด้วย BCG/Carbon Credit เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรากฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของนโยบายต่างๆ นี้ คือ องค์ความรู้ในการทำการเกษตร และการนำงานวิจัยและนวัตกรรม เข้ามาช่วยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาภาคการเกษตร
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. จึงได้กำหนดจัดงานประชุมวิชาการและจัดแสดงผลงานวิจัย และนวัตกรรมด้านการเกษตร “เปลี่ยนวิถีเกษตรไทย ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” ขึ้น ระหว่างวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2566 ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการในภาคการเกษตร รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรได้นำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดพัฒนา ในการช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตร รวมทั้งให้เกิดการปรับเปลี่ยนการทำเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การทำเกษตรอัจฉริยะหรือเกษตรแม่นยำ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพลิกโฉมเกษตรไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้น
ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดงาน ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.00 น. โดยภายในงานจะได้นำงานวิจัยที่ตอบโจทย์การทำเกษตรกรรมยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพ มีการนำไปใช้จริงและมีการขยายผลแล้ว มาจัดแสดงเป็นไฮไลท์ของงานในโซน 20 ปี ของ สวก. และโซน 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก ได้แก่ 1) Agritechnology 2) Coffee & Tea 3) Food & Beverage 4) BCG 5) Health & Beauty และ 6) Agricultural Sustainability
นอกจากนี้ ยังมีการปาฐกถา และการบรรยายที่น่าสนใจ เช่น การบรรยาย หัวข้อ “เกษตรไทยจะเปลี่ยนไปด้วยวิจัยและพัฒนา” โดยนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การเสวนา หัวข้อ “ก้าวทันสภาวะอากาศที่เปลี่ยนไป กับอนาคตเกษตรไทยเปลี่ยนแปลง” และหัวข้อ “นวัตกรรมอาหารไทย สู่ความมั่นคงอาหารโลก”
“จึงขอเชิญชวนภาคเอกชน ผู้ประกอบการในภาคการเกษตร กลุ่มเกษตรกร ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่สนใจ เข้าร่วมงาน ซึ่งงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตรจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตทางการเกษตรของโลกที่สำคัญต่อไป” น.ส.เกณิกา กล่าว