วันนี้(10 พ.ย.)นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนได้เดินทางลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฏรเพื่อไปรับฟังปัญหาและร่วมกันหาแนวทางแก้ไขให้กับพี่น้องเกษตรกร เช่นปัญหาราคากุ้งตกต่ำ ปัญหานี้เกิดจากภาวะกุ้งล้นโลก ซึ่งคณะกรรมาธิการทำหนังสือได้หารือกันเพื่อส่งเรื่องไปยังกระทรวงเกษตรฯ ให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการปรับลดค่าไฟฟ้า ให้เป็นค่าไฟฟ้าเพื่อการเกษตร เพื่อช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงกุ้งให้กับเกษตร และให้ออกกฏระเบียบให้อาหารกุ้ง ต้องระบุชนิดและปริมาณของวัตถุดิบในฉลากอาหารกุ้ง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคุณภาพของอาหารกุ้ง และทำหนังสือถึงกระทรวงพานิชย์ กรมการค้าภายใน ให้ช่วยหาวิธีกระตุ้นการบริโภคกุ้งภายในประเทศ
นอกจากนี้ยังมี ปัญหาน้ำเสียที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่ทำประมงไม่สามารถทำประมงได้ เรื่องนี้ได้ฝากให้ทางชลประทานจังหวัดช่วยหาแนวทางการบริหารจัดการในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน และปัญหาโคเนื้อและเนื้อแพะ ราคาตกต่ำ มีต้นทุนการเลี้ยงที่ค่อนข้างสูง ทำให้เกษตรกรขาดทุน
นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ทางกรรมาธิการยังได้รับฟังปัญหาการส่งเสริมการผลิตและส่งออกผลไม้ต่างๆ เช่น ทุเรียน มังคุด เน้นการควบคุมคุณภาพ ไม่ตัดทุเรียนอ่อน ให้เกษตรกรผู้ปลูกมังคุดรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่ เพื่อออกใบรับรอง GAP ในปีนี้กรมวิชาเกษตร ถูกตัดงบเรื่องการออกใบรับรอง GAP ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติอยู่ในพื้นที่ทำงานกันอย่างยากลำบาก แต่เพื่อให้การบริการประชาชนและการส่งออกผลไม้เป็นไปด้วยความสะดวก เจ้าหน้าที่จะต้องทำงานท่ามกลางความกดดัน
นายสุธรรม กล่าวต่ออีกว่า อีกปัญหาหนึ่งที่ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากเกษตรมาก็คือ การเพาะเลี้ยงหอยแครง หอยนางรม ราคาตกต่ำ มีการนำเข้าหอยจากเวียดนามทำให้ราคาตกต่ำ และปัญหาไม่สามารถสร้างนำเพื่อเฝ้าหอยได้ เนื่องจากกรมเจ้าท่าไม่อนุญาตโดยอ้างว่าขีดขวางการจราจรทางน้ำ ทางเจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลว่า ขนำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวบ้านที่เลี้ยงหอย แต่เนื่องจากติดระเบียบบางอย่างจึงไม่สามารถอนุญาตได้ เรื่องนี้จริงๆ ควรจะอนุญาตให้ชาวบ้านทำได้ แล้วมาขึ้นทะเบียนและจัดระเบียบอีกครั้ง
“ทุกเรื่องที่คณะกรรมาธิการการเกษตรรับไว้ เรื่องไหนเป็นเรื่องที่สามารถบริหารจัดการในพื้นที่ ก็ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยดูแล ส่วนเรื่องไหนเป็นเรื่องเชิงนโยบายก็นำกลับมาทำข้อมูลและผลักดันต่อไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป”นายสุธรรม กล่าว