“ธรรมนัส” ย้ำ ชาวนาต้องขายข้าวเปลือหอมมะลิได้ตันละ 12,000 บาท ตามมติ ครม. กำชับปลัดกระทรวงเกษตรฯ ติดตามดูแล ไม่ให้เอาเปรียบชาวนา พบยังมีปัญหาที่พะเยา อาจสื่อสารผิด พร้อมเร่งเสนอ ครม.สัปดาห์หน้าจ่ายเงินชดเชยไร่ละ 1,000 บาท
วันนี้ (10 พ.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ นโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. ที่เร่งประชุมวันนี้ เนื่องจากจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งการประชุมของคณะอนุกรรมการจะเป็นการขออนุมัติเงินชดเชยในการพัฒนาและบริหารคุณภาพข้าวให้กับชาวนาจำนวน 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่เกิน 20 ไร่ จำนวน 20,000 บาท ซึ่งแนวทางดังกล่าว จะต้องเร่งดำเนินการเพราะจะเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลัง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้เตรียมงบประมาณวงเงินดังกล่าวไว้ให้แล้ว
ส่วนกรณีการซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิความชื้นไม่เกิน 25% วงเงิน 12,000 บาทต่อตัน สามารถดำเนินการได้เลย ส่วนการช่วยเหลือชาวนาในอนาคต หากพบว่า ราคาข้าวมีการตกต่ำนั้น อยากจะขอบอกประชาชนว่ารัฐบาลเข้ามาในช่วง 2 เดือน ภายใต้กรอบที่ยังไม่สามารถใช้งบประมาณได้ ขณะนี้เป็นการใช้งบประมาณพรางไปก่อน และหลังฤดูเก็บเกี่ยวในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีมาตรการ พัฒนาคุณภาพข้าวในการที่จะหาตลาดในการส่งออกเพื่อระบายข้าวให้ได้มากที่สุด ตนจึงเชื่อมั่นว่าในฤดูเก็บเกี่ยว ปี 66/67 จะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้อีก ซึ่ง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกระทรวงการคลัง จะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยตนมีการเล็งตลาดขายข้าวอื่นๆ แล้วเช่นกัน โดยในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ตนจะเดินทางไปยังประเทศจีน ในการเจรจาเพื่อส่งสินค้าทางด้านการเกษตรหลายๆ อย่างไป โดยจะไปทำพิธีสารในเรื่องของสินค้าเกษตรหลายๆ อย่าง
ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวถึงสถาบันทางการเกษตรกรในพื้นที่ ในการรับซื้อข้าว ให้เป็นไปตามมติประชุมคณะรัฐมนตรีให้รับซื้อในราคา 12,000 บาทต่อตัน ซึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการวันนี้ได้กำชับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่า ต้องปฏิบัติตามมติ ครม.แต่หากสถาบันเกษตรกรใด ซื้อข้าวเปลือกในราคาที่ต่ำกว่านี้ ธ.ก.ส. จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด
ดังนั้น อย่าซื้อราคาต่ำกว่านี้เป็นการเอาเปรียบชาวนา แต่ยังพบปัญหาที่จังหวัดพะเยา ซึ่งอาจจะเป็นการสื่อสารกันผิด เนื่องจากขณะนี้เป็นการซื้อข้าวสด