"ไชยามพวาน" น้อมรับมติก้าวไกลขับพ้นสมาชิก ขออย่าโทษพรรคให้ไปโฟกัสกฏหมายที่เสนอ ปากท้องแทน ยังไม่ได้คิดว่าหาพรรคใหม่ ย้ำอุดมการณ์คงเหมือนก้าวไกลพร้อมยกมือให้ บอกกระบวนการยุติธรรมบอกว่าผิดถึงลาออกส.ส. ไม่ฟ้องกลับผู้เสียหาย
วันนี้ (7พ.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ให้สัมภาษณ์เปิดใจกรณีถูกพรรคก้าวไกลขับออกจากพรรค หลังพบว่าทำผิดวินัยพรรคร้ายแรงคุกคามทางเพศว่า ตนทราบคร่าวๆ แล้วในส่วนของมติที่ขับออกพรรค ก็ขอน้อมรับ เพราะว่าตนทำให้พรรคเสียหายมามากจริงๆ ขอน้อมรับมติครั้งนี้สุดหัวใจ
นาย ไชยามพวาน กล่าวต่อว่า ตนยังอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นพรรคกาวไกล เชื่อมั่น สส.ที่อยู่พรรคก้าวไกล และเชื่อมั่นในอนาคต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เหมาะสมเป็นนายกฯ ครั้งนี้เป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่พรรค อย่าถือโทษพรรค แต่ถือโทษที่ปูอัดทั้งหมด ตนอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นอุดมการณ์พรรคก้าวไกล คอยผลักดันดันหลังพรรคก้าวไกลตลอด ตนยังอยากให้ประชาชนทุกคนคอยติดตามกฎหมายที่พรรคเคยบอกว่า ถึงแม้จะฝ่ายค้าน ก็จะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก โทษครั้งนี้คือตนคนเดียว ไม่ใช่พรรคก้าวไกล ยังมีอีกหลายสิ่งหลังจากนี้ เรื่องนี้ขอให้ทุกคนเลิกโฟกัส และไปโฟกัสกฎหมายที่พรรคก้าวไกลกำลังดำเนินการแทน
“ผมไม่อยากให้ทุกคนไปล่าแม่มด เพราะเป็นความผิดส่วนบุคคล เป็นที่ผมคนเดียว ท้ายที่สุดอยากให้ทุกคนหันไปโฟกัสเรื่องปากท้อง ค่าไฟ ทุนผูกขาด ผมยืนยันจะตั้งใจทำงาน ไม่ใช่แค่ลงพื้นที่ทุกวัน แต่จะทำมากกว่าเดิมหลายเท่า จะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่เดินออกสภาฯ ขอโทษทุกคะแนนเสียงที่ทำให้ลำบากใจ”
นายไชยามพวาน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วคนที่ผิดก็คือตน มันเป็นรอยร้าวมากมาย ดังนั้นก็เหมาะสมแล้วที่ตนจะถูกพรรคขับออกมา ขอประชาชนอย่าโกรธหรือโทษพรรค พร้อมอวยพรให้ทุกคนโชคดี
เมื่อถามว่า อนาคตจะไปอยู่พรรคไหน คิดว่าพรรคไหนจะอ้าแขนรับ นาย ไชยามพวาน กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ ยังมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้ไข เช่น ปัญหาน้ำประปาไม่ไหล ส่วนการหาพรรคก็คงต้องถามประชาชนว่าอยากให้ยืนจุดไหน แต่ยืนยันว่าตนยังมีอุดมการณ์ไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า จะไม่ลาออก สส.ใช่หรือไม่ นาย ไชยามพวาน กล่าวยืนยันว่า เมื่อกระบวนการสืบสวนชั้นยุติธรรมเสร็จสิ้น หากบอกว่าตนผิด ก็พร้อมจะลาออก ส่วนคำครหาที่ว่าตนยึดติดหัวโขนนั้น ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ หลายคนมาเป็นผู้แทนก็ปรับตัวไม่ทัน แต่ทุกท่านสามารถวิพากษ์วิจารณ์ตนได้ เพราะตนเป็นบุคคลสาธารณะเชิญวิพากษ์วิจารณ์ได้ ตนพร้อมน้อมรับ และคงไม่ขอโอกาสจากพรรคก้าวไกล และเพื่อน สส.พรรคก้าวไกล ขอให้ทุกคนโชคดี
อยากให้เรื่องของตนเป็นบทเรียนสังคม เป็นบทเรียนเพื่อน สส. และในอนาคตต่อไป เมื่อตนออกมาจากพรรคแล้วไม่อยากทำให้พรรคแปดเปื้อน และขอให้พรรคเดินหน้าต่อไปตามอุดมการณ์ เพื่อเป็นรัฐบาลต่อไปในอนาคต หากมีอะไรให้ช่วยยกมือในสภาฯ ก็จะช่วยพรรคก้าวไกลเต็มที่ เพราะยังเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตามยืนยันจะไม่ฟ้องกลับผู้เสียหายทั้ง 3 คน อยากให้จบเท่านี้ และเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
นาย ไชยามพวาน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการโค้งคำนับหลายครั้งนั้น ตนเป็นมนุษย์แบบนี้จริงๆ ไหว้เราก็ไหว้ด้วย แต่จะติดแบบนี้ตลอดเวลา ไม่อยากให้ทุกคนเห็นว่า สส.สูงส่ง เพราะเราก็ไม่ต่างจากทุกคน
ขณะที่นาย ไชยามพวาน ให้สัมภาษณ์มีการถอนหายใจเป็นระยะๆ และร้องไห้เป็นช่วงๆ พร้อมทั้งเช็ดน้ำตาด้วยเช่นกัน
