xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ตรวจเยี่ยม-มอบนโยบาย ท่าเรือแหลมฉบัง เร่งรัดติดตามโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่​ 3 เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยม​ มอบนโยบาย​ และหารือประเด็นเพิ่มศักยภาพของพื้นที่รองรับสินค้าอุตสาหกรรมนำเข้าส่งออกของท่าเรือแหลมฉบัง ในคราวเดินทางไปตรวจราชการ ณ จังหวัดชลบุรีและระยอง โดยเร่งรัดโครงการพัฒนา​ท่าเรือแหลมฉบัง​ (ทลฉ.) ระยะที่​ 3 การเชื่อมโยงขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ​ และแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของ​ ทลฉ.​


วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2566) เมื่อเวลา 11.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงาน ทลฉ.​ พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และคณะตรวจราชการ ร่วมลงพื้นที่ฯ โดยมีนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) คณะผู้บริหารและพนักงาน กทท. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี​ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ผู้นำส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ บริษัทผู้รับเหมา และประชาชนให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

นายกรัฐมนตรีได้เดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ​ (หัวลำโพง)​ ไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง จากนั้นคณะรับฟังบรรยายสรุปจากนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ​ กทท. เกี่ยวกับภาพรวมและผลการดำเนินงาน ความคืบหน้าโครงการพัฒนาสำคัญ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โครงการการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ฯลฯ รวมทั้งแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของ ทลฉ. แผนปรับปรุงถนนการจราจรภายใน ทลฉ. ฯลฯ

โดย​นายกรัฐมนตรี​กำชับให้​ กทท.​ เร่งดำเนินการโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่​ 3 อย่างเร่งด่วน​ "การพัฒนา​ ทลฉ.​ มีความสำคัญในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ​ หากมีส่วนใดที่ไม่เป็นไปตามแผน​ก็ขอให้เร่งรัดติดตาม​แก้ไขให้แล้วเสร็จและบริหารสัญญากับผู้ประกอบการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติงานของโครงการ​ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในศักยภาพของประเทศ​ไทยและ​สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ​"

ซึ่งขณะนี้ความคืบหน้างานจ้างเหมาก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง​ระยะที่​ 3 ส่วนที่ 1 ผู้รับจ้างฯ ได้ส่งมอบพื้นที่ถมทะเลพื้นที่​ 1 และ​ 2 เรียบร้อยแล้ว​ สำหรับพื้นที่ถมทะเล​ พื้นที่​ 3 คาดว่าจะส่งมอบภายในเดือนมิถุนายน​ 2567​ และสามารถส่งมอบพื้นที่​ F1 ของโครงการฯ​ ให้แก่บริษัทเอกชนคู่สัญญาได้ภายในปลายปี​ 2568 และ​กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ​ ในปี​ 2569 โดยจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง​ 18 ล้าน​ ​ที​อี​ยู จากเดิม 11.10 ล้าน​ ที​อี​ยู​

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวเพิ่มเติมว่า​ "นอกจากนี้ให้​ กทท.​ พิจารณาให้ความสำคัญกับการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ Multi-modal โดยให้เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางที่​ ทลฉ.​ จากวันละ​ 24​ เที่ยว​ เพิ่มเป็นวันละ​ 30​ เที่ยว​ รวมทั้งผลักดันขีดความสามารถการขนส่งทางรถไฟจาก​ปัจจุบัน​ 4 แสน​ ทีอียู​ เพิ่มเป็น​ 5 แสน​ ทีอียู.​ เนื่องจากการขนส่งทางรางจะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์​"
อย่างไรก็ตาม​ ได้เน้นให้​ กทท.​ เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง​ และการแก้ไขปัญหา​การจราจรภายในท่าเรือและบริเวณโดยรอบ​อีกด้วย




























กำลังโหลดความคิดเห็น