เอาแล้ว! “คำ ผกา” กระตุก “ก้าวไกล” แก้คุกคามทางเพศไม่ได้ เปลี่ยนโครงสร้างอำนาจ แหลมคมกว่านี้จะทำได้จริงหรือ “โบว์” ชี้ เรียกร้องเปิดชื่อผู้โหวต แต่ปิดบังข้อเท็จจริงคือล่าแม่มด ตั้งคำถามกระบวนการสอบ เชื่อถือได้แค่ไหน
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(3 พ.ย.66) นางสาวลักขณา ปันวิชัย "คำ ผกา" หรือ แขก พิธีกรชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านX @kamphaka กรณีกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล โหวตลงมติกรณีส.ส.คุกคามทางเพศ แต่เรื่องกลับบานปลาย ไม่ได้รับการยอมรับจากทั้งส.ส.พรรคและด้อมส้ม ว่า
“เรื่องที่คนวิจารณ์พรรคก้าวไกลตอนนี้ไม่ใช่เรื่อง SH แล้วนะคะ แต่เป็น
1. พรรคมีมติแล้วว่าผิดทั้ง 2 คน แต่ คนหนึ่งถูกขับ อีกคนไม่ถูกขับ
2. เพราะอะไร คนหนึ่งมีเสียงโหวตพอให้ขับ?
3. เพราะอะไรอีกคนเสียงไม่พอ
4. เสียงที่หายไปมีเหตุผลอะไร?
5. พรรคกก. ก็มีปัญหาเรื่องระบบอุปถัมภ์ พรรคพวก ก๊วน อภิสิทธิ์ชนในพรรค ไม่ต่างจากพรรคอื่นใช่หรือไม่?
6. การนิ่งของสส. ที่เหลือ รวมทั้งชัยธวัชเองคือการจำนนต่อความจริงที่ว่าพรรคไร้ความสามารถในการสร้างความยุติธรรมในพรรคหรือไม่?
7. เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ในพรรค แล้วเรื่องใหญ่กว่านี้ เช่นการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในสังคมที่แหลมคมจะทำได้จริงหรือ?”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ของน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความระบุว่า
“คนเราทำผิดหรือไม่ ต้องรู้ตัวเอง
ถ้ารู้ตัวว่าทำผิดจริง ขอโทษ ทันที
ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิด ทางเดียวที่คุณจะรอด คือเปิดเผยข้อเท็จจริงทุกอย่างสู่สังคม
การเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อสมาชิกจากการโหวตลับ แต่ให้ปิดบังข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น คือการล่าแม่มด
สิ่งเดียวที่ปิดได้ คือชื่อผู้เสียหาย
นอกนั้นถ้าบังคับให้ปิดบัง แต่ชี้นำให้สังคมร่วม “รุมประณาม” โดย “ไม่ต้องรู้ข้อเท็จจริง” คือ การหมกเม็ด และส่งเสริมศาลเตี้ย
ในการพิจารณาคดีปกติ เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ทุกอย่างจะโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีรายงานกระบวนการพิจารณาคดี และมีคำพิพากษาอย่างเปิดเผย
สิ่งเดียวที่ปิดบังได้ คือชื่อผู้ร้อง
ไม่ใช่ลากคนออกมาประจานให้สังคมรุมประณาม แต่ซ่อนสิ่งที่เหลือไว้ในมุมมืด
นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเราต้องการอยู่ในวัฒนธรรมนิติรัฐ ไม่ใช่ศาลเตี้ย
องค์กรที่เสนอตัวมาทำงานนิติบัญญัติ ไม่ควรจะนำพาสังคมให้เพี้ยนไปได้ขนาดนี้ งานบริหารไม่ต้องพูดถึง.”
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เพจเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana โพสต์ถึงกรณีผลโหวตกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรคก้าวไกล ปมคุกคามทางเพศ โดยมีมติขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี พ้นสมาชิก และคาดโทษ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม ขณะที่นายวุฒิพงศ์แฉกลับฝ่ายหญิงส่งคลิปเปลื้องผ้า 50 คลิป ยืนยันไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ว่า
หากเป็นการพิจารณาคดีในศาล จะมีกระบวนการพิจารณาคดี และข้อมูลข้อเท็จจริงในคดีจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ สังคมจะรู้ว่าผู้ถูกตัดสินมีความผิดหรือไม่ด้วยเหตุใด มีรายละเอียดเหตุการณ์เป็นอย่างไร ข้อกฎหมายใดที่ใช้ประกอบการพิจารณา และมีอะไรบ้างที่เป็นองค์ประกอบความผิด
แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ไม่มีหรือไม่ปรากฏต่อสังคมในการดำเนินกระบวนการของพรรคก้าวไกล สังคมจึงต้องมาต่อจิ๊กซอว์เอาเอง ซึ่งไม่มีทางครบ
ปัญหาวิธีคิดและกระบวนการในการทำงานเพื่อนำมาซึ่งความยุติธรรมของพรรค เป็นเรื่องที่สังคมควรให้ความสนใจยิ่งไปกว่าเรื่องคดีความที่สามารถพิสูจน์กันได้ในชั้นศาล
เพราะนั่นคือสิ่งที่สะท้อนทัศนคติและศักยภาพของ “พรรคการเมือง” ที่อาสามาทำงานนิติบัญญัติและบริหารประเทศ ถ้าไม่รอบคอบ ถ้าเป็นไปตามกระแสหรือตั้งต้นด้วยอคติมากกว่าเป็นไปเพื่ออำนวยความยุติธรรมจริงๆ ก็ยิ่งน่ากังวล
ส่วนหนึ่งของการแถลงวันนี้ที่ปรากฏในข่าวนี้ เป็นส่วนที่ถูกตัดออกไปจากสื่อส่วนใหญ่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่แสดงความบริสุทธิ์ของผู้ถูกร้อง (นั่นคือสิ่งที่ต้องถูกพิสูจน์ในศาล) แต่เป็นสิ่งที่ชวนให้ตั้งคำถามว่า กระบวนการที่เพิ่งจบไป คือกระบวนการที่เชื่อถือได้แล้วจริงหรือไม่?
ขอบคุณนักข่าวที่ตั้งคำถามถึง “ข้อเท็จจริง”