"เศรษฐา" ประชุมหารือแผนบูรณาการการท่องเที่ยว เคาะเปิดสถานบริการถึงตี 4 ชั่วคราว นำร่อง 4 จว.ท่องเที่ยว กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต เริ่ม 15 ธ.ค. ยันกลางวงประชุม “คิดดีแล้ว” หวังกระตุ้นท่องเที่ยว ชี้ต้องจัดโซน สั่งตร.-มท.เตรียมแผนรับมือปัญหาอาชญากรรมตามมา
วันนี้ (3 พ.ย. 66) เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือแผนบูรณาการการท่องเที่ยว เปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุม ขอบคุณทุกฝ่ายที่มาประชุมในวันนี้ โดยนโยบายกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นทางฝ่ายความมั่นคง หรือฝ่ายปกครอง ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็มีส่วนผลักดันเรื่องนี้อย่างนี้มาก และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่เข้ามาบริหารจัดการ รัฐบาลมีนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่แถลงต่อสภาฯ และมีนโยบายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งในเรื่องการเปิดสถานบริการถึงตี 04.00 น. นี้ รัฐบาลได้คิดมาอย่างดีแล้ว โดยได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งในความจริงก็มีการลักลอบกระทำกันอยู่บ้าง จึงต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ จะต้องดูเรื่องโซนนิ่งว่าเขตไหนเหมาะสมที่จะทำหรือไม่ทำอย่างไร รวมทั้งเรื่องผลกระทบ โดยในด้านบวกเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน กระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ในเรื่องผลกระทบที่จะตามมา เช่น ในเรื่องความไม่สะดวก ไม่สบายใจของเพื่อนบ้าน การเมาไม่ขับ ค้ายาเสพติด ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ จึงขอให้ช่วยกันดูให้ครบทั้งหมดทุกเรื่อง
ที่ประชุมรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1. การแก้กฎกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การขยายเวลาเปิดสถานบริการ 2. การออกใบอนุญาตสถานบริการ 3. แผนรองรับประเด็นทางสังคม 4. แผนพื้นที่จำนวนโซนนิ่ง เปิดสถานบันเทิงตี 4 5. แผนสนับสนุนด้านการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย ซึ่งที่ประชุมได้หารือร่วมกันอย่างกว้างขวาง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่าเรื่องใดที่ทำได้ก่อนขอให้ทำก่อน เช่น ในเรื่องโซนนิ่งที่ทำได้ก่อนก็ทำก่อน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับเรื่องผลกระทบที่ตามมาจากพี่น้องประชาชนที่อยู่รอบข้าง ก็ต้องคำนึงถึงด้วย รวมทั้งในเรื่องการเมาไม่ขับถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยขอฝากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยโปรโมตแอปพลิเคชัน YOU DRING I DRIVE เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากขึ้น
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า จากการหารือร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดหลักที่จะอนุญาตให้เปิดสถานบริการถึงตี 4 โดยมีเดดไลน์ที่คือวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ส่วนช่วงเวลาจะเป็นการชั่วคราวก่อน โดยจะไปพิจารณาถึงช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ตรงไหนที่ทำได้จะทำก่อน ส่วนจะมีการเปิดเปลี่ยนโซนนิ่งหรือไม่ในอนาคตจะมีการพิจารณาในภายหลัง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การดำเนินการเรื่องนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียว ถ้าเปิดระยะเวลาได้ยาวขึ้น พี่น้องประชาชนที่ทำการค้าขายเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือสถานบริการอย่างอื่นก็สามารถที่จะเปิดบริการได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยกำลังดูพื้นที่ที่จะทำโซนนิ่ง และเรื่องใบอนุญาตต่าง ๆ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องการดูแลประชาชน ให้ทำความเข้าใจกับนโยบายนี้ เรื่องเสียงรบกวน เรื่องเมาไม่ขับ การติดตั้งกล้อง CCTV ให้มากขึ้น รวมถึงการนำเอกชนมาร่วมมือการให้บริการเรื่องเมาไม่ขับ รวมถึงการตรวจค้นยาเสพติดในสถานบันเทิงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่าในช่วงต้นของการประชุมหารือแผนบูรณาการการท่องเที่ยว เรื่องการเปิดสถานบันเทิง ถึง 04.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา กล่าวย้ำ นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว ว่า เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และ กระทรวงมหาดไทย ล้วนมีส่วนผลักดัน และเราให้ความสำคัญมาโดยตลอด เห็นได้จากนโยบายด้านการท่องเที่ยว แทบจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์เว้นสัปดาห์
“เรื่องของการเปิดสถานบริการ ถึงตี4 นี้ ยืนยันว่า เราก็คิดกันมาดีแล้ว เราได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงด้วย และ เห็นว่าเป็นประเด็นที่ ความจริงแล้วมันก็มีการกระทำกันอยู่ ลักลอบกันทำอยู่บ้างแล้ว เราก็ทำให้มันถูกต้องตามกฎหมายก็แล้วกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องดูเรื่องโซนนิ่ง ว่าเขตไหนเหมาะสมที่จะทำหรือไม่ ทำอย่างไร" นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนเรื่องผลดีของนโยบายดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ต้องพูดกันอยู่แล้ว เพราะเรื่องการเสริมสร้างรายได้ให้กับประชาชน กระตุ้นการท่องเที่ยว แต่เรื่องผลกระทบที่จะตามมา เรื่องของปัญหาอาชญากรรมหรือความไม่สบายใจของเพื่อนบ้าน เรื่องเมาไม่ขับ หรือปัญหายาเสพติดที่จะตามมาเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ก็ขอให้พวกเราดูกันให้ครบ ทั้งหมดในทุกเรื่อง