รัฐบาลห่วงประชาชนป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สธ. เผยปี 66 ไทยพบผู้ป่วยกว่า 3.49 แสนราย เสียชีวิต 3.6 หมื่นราย แนะวิธีป้องกัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมมือสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาการ-ปัจจัยเสี่ยง เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่องค์การหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Organization: WSO) ได้กำหนดให้วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day) โดยประเด็นการรณรงค์ในปี 2566 คือ Together we are #GreaterThan Stroke : ร่วมมือกันป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนสร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแก่ประชาชน นั้น ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการที่สำคัญทั่วโลกและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั่วโลกพบว่า 1 ใน 4 ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไปเป็นโรคหลอดเลือดสมอง และ 90% ของโรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ สำหรับประเทศไทยข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข สธ. ในปี 2566 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมากถึง 349,126 ราย เสียชีวิต 36,214 ราย เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีอายุน้อยกว่า 70 ปี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรคได้แนะวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องในวันหลอดเลือดสมองโลก ปี 2566 ว่า โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ “ป้องกันไว้ดีกว่าการรักษา” เนื่องจากการรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิด ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ทำได้โดยการควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาล และระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม มีกิจกรรมทางกายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดการใช้สารเสพติดทุกชนิด หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
“รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนอาจเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตัวเอง ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคย้ำว่า การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาการและปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพราะประชาชนหรือผู้ป่วยสามารถนำความรู้มาป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และประกอบการตัดสินใจในการมารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเพื่อลดความเสี่ยงต่อความพิการและเสียชีวิต อีกทั้งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่ผ่านการรักษาจนพ้นวิกฤติแล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปรับยาและหยุดยาเองเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคหลอดเลือดสมอง โดยคำแนะนำดังกล่าวของกรมควบคุมโรค เป็นการส่งเสริมกลไกสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ตามนโยบายของรัฐบาล” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว
สำหรับอาการและสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง B.E.F.A.S.T มีดังนี้
B-Balance เสียการทรงตัว วิงเวียน เดินเซ
E-Eye มองไม่เห็น มีอาการตามืดบอดข้างเดียว หรือ 2 ข้างทันที มองเห็นภาพซ้อน
F-Face ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวเฉียบพลัน
A-Arm แขนขาอ่อนแรง
S-Speech พูดไม่ชัด เสียงเปลี่ยน ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออกทันทีทันใด
T-Time หากมีอาการให้รีบโทรสายด่วน 1669 และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว หรือภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที