"สนธิญา" ยื่นหนังสือถึง กกต.ถามหาความรับผิดชอบ ปมอนุมัติพรรคการเมืองหาเสียงนโนบายแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท - เงินผู้สูงอายุ แต่กลับทำไม่ได้ เล็งยื่น ป.ป.ช - ผู้ตรวจ ส่งศาล รธน.เอาผิด
วันนี้( 27 ต.ค.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อ กกต.ทวงถามกรณีการพิจารณาอนุมัติให้พรรคการเมืองสามารถนำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่น รวมถึงเงินสวัสดิการผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท เพื่อไปหาเสียงได้ แต่ปฏิบัติจริงไม่ได้ เป็นการขัดมาตรา57พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และรัฐธรรมนูญมาตรา258(3)หรือไม่
นายสนธิญา กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 258 (3) ซึ่งว่าด้วยการปฏิรูปประเทศนั้น นโยบายของพรรคการเมืองจะต้องศึกษา และทบทวน รวมถึงต้องมีการพิจารณาอย่างถ่องแท้ แต่ปัจจุบันพรรคการเมืองที่ประกาศว่าจะจ่ายเงินสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุ 3,000 บาท ต่อคน ขณะที่อยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ก็ประกาศออกมาว่าทำไม่ได้ จนกระทั่งขณะนี้นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาท ก็ยังลูกผีลูกคน จึงต้องมาถาม กกต.ว่าการที่อนุมัตินโยบายดังกล่าวนั้น ได้มีการศึกษาและทบทวน รวมถึงได้ถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะในช่วงของการเลือกตั้งจะเห็นว่ากกต.ใหญ่ที่สุด รัฐบาลรักษาการณ์ในขณะนั้นจะทำอะไรก็ต้องถาม กกต.วันนี้จึงต้องการ 1.ให้กกต.พิจารณาวินิจฉัยตัวท่านเอง เพราะหลายเรื่องที่ตนยื่นมาก่อนหน้านี้ถูกตีตกหมด และที่ผ่านมา กกต.ปล่อยปละละเลยเกี่ยวกับนโยบายเหล่านี้หรือไม่ 2.การที่พรรคการเมืองประกาศนโยบายแล้วทำไม่ได้ แต่กกต.อนุมัติให้สามารถนำไปใช้หาเสียงได้ เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 หรือไม่ และขัดต่อ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 57 หรือไม่ ซึ่งตนก็จะนำเรื่องไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พิจารณาว่าการที่พรรคการเมืองมายื่นนโยบายหาเสียง และกกต.พิจารณาอนุญาต แต่เมื่อพรรคการเมืองทำไม่ได้ กกต.จะต้องรับผิดชอบในการวินิจฉัยอย่างไร ส่วนพรรคการเมืองจะต้องรับผิดชอบในการดูแลประชาชน และการเลือกตั้งครั้งต่อไป
"เมื่อเป็นเรื่องที่กกต.รับรองแล้วว่าได้มีการศึกษาทบทวนว่าสามารถทำได้ แต่มาวันนี้ทำไมทำไม่ได้ เป็นการละเว้นปล่อยปละละเลยหรือไม่ กระบวนการนโยบายของพรรคการเมืองที่กกต.อนุมัตินั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่จบแค่ตรงนี้ แต่จะไปยื่นต่อ ป.ป.ช. หรือยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อพิจารณาส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของกกต.นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ต่อไป"
นายสนธิญา กล่าวว่าไม่เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ประกาศเป็นนโยบายหาเสียงนั้นสามารถทำได้ และได้ยื่นเรื่องต่อกกต.มา 5 เดือนแล้ว ทำไมถึงปล่อยให้นโยบายหาเสีนงเหล่านี้ออกมาเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า นี่คือการทำลายระบอบประชาธิปไตยทางอ้อม เพราะเมื่อพรรคการเมืองทำไม่ได้ แต่กกต.อนุมัติ ประชาชนก็จะไม่นับถือประชาธิปไตยอีกต่อไป เพราะคือการโกหก ซึ่งผู้ที่ดูแลกวดขันได้คือ กกต.จึงขอถามว่าเมื่อกกต.บอกว่าศึกษาทบทวนแล้วเหตุใดวันนี้พรรคการเมืองจึงบอกว่าทำไม่ได้ และไม่อยากเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าอีกต่อไป ซึ่งกกต.จะต้องวางแผน รับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองหลอกประชาชนอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามช่วงก่อนการแถลงข่าวนายสนธิญา ได้โชว์ซองจดหมายจ่าหน้าซองถึงนายสนธิญา แต่ไม่มีชื่อผู้ส่งโดยภายในซองมีภาพเปลือยจำนวน 2 ภาพ โดยนายสนธิญาระบุว่าได้รับเมื่อวานนี้แต่ไม่ทราบว่าผู้ส่งต้องการสื่ออะไรถึงตน
