รมช.คลัง ปัดลอกญี่ปุ่นแจกเงินดิจิทัล ยันแตกต่างจากไทย แต่ได้ติดต่อขอข้อมูลจาก “ศิริกัญญา” ไปแล้ว เพื่อนำมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ย้ำ เป้าหมายเริ่มโครงการ ก.พ. 67 หากไม่ทันจริงๆ พร้อมเสนอนายกฯ ขอปรับกรอบเวลา
วันนี้ (23 ต.ค.) ที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีกรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาระบุต้นฉบับของนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต มาจากประเทศญี่ปุ่น ว่า ยืนยันว่า ต้นแบบไม่ได้มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ก็เคยดำเนินการในลักษณะคล้ายคลึงกัน เมื่อปี 1999 เป็นลักษณะของการแจกคูปอง ส่วนตัวได้เห็นข่าวดังกล่าวแล้ว และยังได้ติดต่อไปขอข้อมูลจาก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.เพื่อขอข้อมูลของญี่ปุ่นและไต้หวัน เพื่อนำข้อดีและข้อเสียสิ่งที่ญี่ปุ่นและไต้หวันมาได้ทำมาศึกษาและเปรียบเทียบดู ไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนการเปรียบเทียบนั้น คิดว่า ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่าบริบทและความแตกต่างของปี 1999 กับปัจจุบัน เรื่องสภาพประเทศญี่ปุ่นกับไทยมีความแตกต่างกัน ฉะนั้น เอามาเปรียบเทียบโดยตรงก็ไม่ได้ แต่บทเรียนในอดีตเราพร้อมจะเก็บมาวิเคราะห์ความสำเร็จและประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ
เมื่อถามถึงกรณีเลื่อนประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ทำให้ประชาชนสงสัยว่าได้รับเงินจากนโยบายนี้ในเดือน ก.พ. 67 หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป้าหมายยังคงอยู่ที่เดือน ก.พ. 67 และหากมีการประชุมคณะอนุกรรมการในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ อาจจะต้องมีการรายงาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เพื่อขอปรับกรอบเวลาของโครงการ เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่าง และอยากให้มั่นใจว่าเมื่อเปิดใช้บริการจะต้องมีความปลอดภัย เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่ไม่สามารถละเลยได้ แต่ทั้งนี้ ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าหากมีการเลื่อนโครงการจริง จะมีการกำหนดใหม่ว่าสามารถแจกเงินได้เมื่อไหร่ ขอย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเลื่อนแจกเงินหรือไม่
เมื่อถามว่า ที่มาของเงินหรือแอปพลิเคชัน ถือเป็นปัจจัยหลักที่อาจจะต้องทำให้เลื่อนการแจกเงินใช่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 อย่างถือเป็นปัจจัยที่จะต้องนำมาพิจารณา เพราะทุกเรื่องมีความสำคัญเท่ากันหมด เราต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบรอบ พร้อมมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เรามีความระมัดระวังมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องเงินกู้กับธนาคารออมสิน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลยืนยันตลอดว่าที่มาของเงินดำเนินโครงการไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้กลับไม่มีความชัดเจนติดปัญหาในส่วนใด นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เนื่องจากต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย เมื่อคณะอนุกรรมการมีการประชุมและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาข้อมูลรวบรวมรายงานส่งมายังคณะอนุกรรมการฯ ตอนนี้จึงต้องรอรายงานเพื่อส่งต่อให้คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ ถือว่า มีความจำเป็นตามกฎหมาย ไม่สามารถลัดขั้นตอนได้ และไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับโครงการโดยที่ยังไม่มีมติจากคณะกรรมการได้ ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่ได้มีการสั่งการหรือกำชับอะไรเป็นพิเศษ และยังตอบไม่ได้ว่าการประชุมคณะอนุกรรมการจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่