พปชร.เปิดโอกาส ส.ส.เสนอความคิดเห็น แนะแนวทางการทำงาน พร้อมเดินหน้าทำนโยบายรายภาค สู้ศึกเลือกตั้งรอบหน้า “ไผ่” เตรียมผลักดัน “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” หารายได้เข้าประเทศ
วันที่ 21 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท จ.ภูเก็ต - พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จัดสัมมนาพรรคในหัวข้อ “รวมพลังสามัคคี” ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.สอบถามความคิดเห็น และเสนอแนะแนวทางการทำงานให้พรรค โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายวรเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ตอบคำถาม
โดย นายวราเทพ กล่าวว่า สิ่งที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กรรมการบริหารพรรค บอกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าต้องได้มากกว่า 39 บวก 1 จริงๆ แล้ว ถ้ากลับตัวเลขจะกลายเป็น 93 บวก 1 หรือเปล่า เพราะพรรคพลังประชารัฐ เคยได้ถึง 117 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่อันหนึ่งที่หลายคนมองไม่ออก คือ เมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.มาจากพรรคทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมถึง กทม.และครั้งนี้ เราก็มี ส.ส.ทุกภาค ขาดแค่ กทม. ตนจึงอยากให้ทุกภาคมีนโยบายภาค โดยเป็นเรื่องของปัญหาใหญ่ๆ ของแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะเรื่องที่หลายรัฐบาลแก้ไขไม่ได้ น่าจะนำมาจุดประกาย แม้จะเป็นพรรคอันดับ 4 แต่ควรจะมีนโยบายเหล่านี้ มาใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
จากนั้น ส.ส. ได้พูดถึงปัญหาที่อยากจะสะท้อนและต้องการคำตอบจากผู้บริหาร อย่าง นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้สะท้อนถึงปัญหาในจังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะเรื่องของการปราบผู้มีอิทธิพลและการค้าหมูเถื่อน โดยต้องการความชัดเจนในด้านของกฎหมาย หลังจากตกเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกตรวจสอบแต่ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้มีเครื่องฟอกไต ที่โรงพยาบาลประจำตำบลด้วย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่มีเงินฟอกไต
ด้าน นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สำหรับนโยบาย ที่ดิน ส.ป.ก. ถือเป็นเรื่องสำคัญสุดในการสัมมนาครั้งนี้ แต่เชื่อว่า การผลักดันที่ดิน ส.ป.ก.เป็นโฉนด ขายได้ ในแบบที่ควรจะเป็น จะเป็นสิ่งสำคัญ โดยเรื่องนโยบายพรรคส่วนตัวอยากให้จับประเด็นหลักๆ ถูกใจประชาชน อย่างที่ตนเคยลงพื้นที่ ประชาชนต้องการจริงๆ ซึ่ง ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เคยประกาศไว้ว่า 15 มกราคม 2567 จะเริ่มแจกเป็นของขวัญ จึงอยากฝากพรรคให้ช่วยกันผลักดัน เพื่อจะได้เป็นนโยบายนำไปพูดกับพี่น้องประชาชนได้ และสิ่งที่เราพยายามเสนอออกมาในรูปแบบต่างๆ เราจะตั้งใจทำ
นายไผ่ ยังกล่าวต่อว่า สิ่งต่างๆ ที่พวกเราพยายามผลักดัน สนับสนุนออกมาในรูปแบบของกฎหมายต่างๆ เราก็จะตั้งใจทำ และอีกไม่นาน มีเรื่องที่เราพยายามต่อสู้ พยายามผลักดันเข้าสู่สภา คือ Entertainment Complex ในการหารายได้เข้าประเทศ เราจะผลักดันเข้าสู่สภา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย ซึ่งถือเป็นผลงานของเราที่ชัดเจน อยากให้ทุกคนช่วยกันในเรื่องนี้เพื่อให้สิ่งที่อยู่ใต้พรม ทำให้เกิดปัญหาหลายๆอย่าง กลับมาเพื่อหารายได้เข้าประเทศ ทำให้ประเทศมั่งคั่งให้ได้ ฝากพี่น้องภายในพรรคด้วย
“อยากจะฝากไปยัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า ประเทศเราผ่านโควิด-19 มาด้วย อสม. มีการร้องเรียนถึงเรื่องเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะใช้ช่วยประชาชน ไม่พอ จึงอยากให้ส่งเสริม และสุดท้ายอยากจะฝากเรื่องของการขอใช้พื้นที่ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากว่ามี อบต.ร้องเรียน ว่า ไม่สามารถขอใช้พื้นที่บางพื้นที่ได้ เนื่องจากถูกอ้างว่าเป็นพื้นที่ป่า ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ป่าแล้ว อยากขอให้การใช้พื้นที่ต่างๆ มีขั้นตอนที่ง่ายขึ้น กำหนดเป็นนโยบายเลยว่าให้เป็น One Stop Service ขออนุญาตเพียงหน่วยงานเดียว เพื่อให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งที่ทำกิน เชื่อว่าถ้าเราทำได้ เราจะชนะและอยู่ในใจพี่น้องประชาชน”