วันนี้ (20 ต.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ อาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในพิธีรับร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล โดยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY083 ได้นำร่างแรงงานไทยรวม 8 ราย เดินทางออกจากอิสราเอลในวันที่ 19 ตุลาคม เวลา 20.00 น. และถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 20 ตุลาคม เวลา 09.45 น.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนวางพวงหรีด พร้อมด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าร่วมในพิธี
โดยจะมีการลำเลียงร่างออกมาแล้วมาบรรจุลงกล่องบรรจุร่าง เพื่อย้ายร่างมาในโลงไม้ ก่อนเคลื่อนออกมายังบริเวณลานอาคารคลังสินค้า มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของทั้ง 8 ร่าง
จากนั้น รถจากสุริยาหีบศพ คลองหลวง โดยบริษัท สุริยา ฟิวเนอรัล จำกัด จำนวน 8 คัน จะเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนา โดยญาติผู้เสียชีวิตรอรับร่างอยู่ที่ภูมิลำเนา
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนจากกระทรวงแรงงาน ได้มาร่วมพิธีรับร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องส่งร่างไปยังภูมิลำเนา จากนั้นทางสำนักงานแรงงานประจำจังหวัด ไปเยี่ยมบ้านของผู้เสียชีวิต ชี้แจงเรื่องเอกสารที่จะยื่นขอรับเงินชดเชยกรณีผู้เสียชีวิต จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีเสียชีวิตจะได้ค่าชดเชยรายละ 40,000 บาท และทำศพอีก 40,000 บาท จากนั้น กระทรวงแรงงาน ก็จะเร่งประสานไปยังทางการอิสราเอล เพื่อทำเรื่องขอรับเงินชดเชยให้กับแรงงาน กรณีเสียชีวิตภรรยาจะได้รับเงินเดือนละ 40,000 บาท จนกว่าจะมีการสมรสใหม่ บุตรจะได้รับเดือนละ 8,000-12,000 บาท จนอายุครบ 18 ปี
ทั้งนี้ นายไพโรจน์ กล่าวว่า ในเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์ ทางการอิสราเอลได้ดำเนินการพิสูจน์มาแล้ว ประเด็นนี้จึงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากญาติอยากจะพิสูจน์อีกครั้ง ก็สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม กรณีผู้เสียชีวิตรายอื่นที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายกลับมาไทย อยู่ในระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ที่ประเทศอิสราเอล
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ข้อมูลแรงงานไทยที่เสียชีวิตตอนนี้ยังอยู่ที่ 30 ราย บาดเจ็บ 16 ราย และมีแรงงานที่แจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 8,389 ราย ที่เดินทางกลับมาแล้วสะสม 1,560 ราย โดยในวันนี้จะมี 2 เที่ยวบินเข้ามา รวมกัน 540 ราย ซึ่งทางกระทรวงแรงงานจะเร่งประสาน พาแรงงานกลับมาให้เร็วที่สุด ให้หมดภายในสิ้นเดือน สำหรับแรงงานบางคนที่ยังไม่ประสงค์กลับ เนื่องจากพักอยู่ห่างจากพื้นที่ความรุนแรง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ส่งน้ำดื่มและอาหารแห้ง ไปให้แรงงานที่อิสราเอลแล้ว กว่า 4,000 ชุด
ปลัดแรงงาน กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ที่อาจจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานจะย้ายศูนย์บัญชาการช่วยเหลือคนไทยมาอยู่ที่ดูไบแทน จึงต้องระดมเจ้าหน้าที่ไปตั้งทีมที่ดูไบ จากนั้นจะมีการทยอยพาแรงงานมาต่อเครื่องบินที่ดูไบก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ขอย้ำว่าขณะนี้เป็นการช่วยเหลือแรงงานทุกคนทั้งถูกและผิดกฎหมาย ให้ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยโดยเร็วที่สุด สำหรับแรงงานที่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับมาเองได้ ก็ให้เดินทางกลับมาก่อนแล้วนำเอกสารมาเบิกที่กระทรวงแรงงาน
สำหรับร่างทั้ง 8 รายที่ลำเลียงมาไทยรอบแรก มีรายชื่อ ดังนี้
1. นายพงษธร ขุนศรี จ.นครราชสีมา
2. นายพิชิต นาจันทร์ จ.ขอนแก่น
3. นายชัยรัตน์ สานุสันต์ จ.อุดรธานี
4. นายอานันต์ เพชรแก้ว จ.ชัยภูมิ
5. นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ จ.ศรีสะเกษ
6. นายอนุชา โสภากุล จ.อุดรธานี
7. นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ จ.ขอนแก่น
8. นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์ จ.สุโขทัย