“สุรเชษฐ์” ชี้ ตัววัดความสำเร็จนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย อยู่ที่ “สายสีเขียว-สีน้ำเงิน” แนะรัฐบูรณาการโครงข่ายร่วมกัน “ไม่ใช่อุ้มรถไฟ ปล่อยปละรถเมล์” ย้ำ ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ติดตามนโยบายภายใน 2 ปี ทำได้จริงหรือไม่
วันนี้ (17 ต.ค.) นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีแดง เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) โดยระบุว่าการปรับลดราคาดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งรถไฟสายสีม่วงเคยลดราคาแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 62 ถึงต้นปี 64 ส่วนสายสีแดงก็เคยเปิดให้วิ่งฟรีตั้งแต่ปลายปี 64
อย่างไรก็ดี เราไม่ได้มีปัญหากับรัฐบาลที่จะดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เพียงแต่อยากจะบอกว่า วิธีการแก้ปัญหาระบบขนส่งสาธารณะ เราต้องมองเป็นโครงสร้างให้มากขึ้น เพราะธรรมชาติของคนที่ใช้ขนส่งสาธารณะจะเดินทางหลายต่อ อีกทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีแดง ปกติคนก็ใช้ไม่เยอะ ส่วนหนึ่งปัญหามาจากการเข้าไม่ถึงสถานี หรือมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าจะมาถึงสถานี ฉะนั้น รัฐบาลจะจัดสรรทรัพยากร จะต้องบริหารให้ดี ว่าจะทำอย่างไรให้การเดินทางตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลาย ไม่ใช่แค่จากสถานีหนึ่งไปอีกสถานีหนึ่ง และทำให้การเดินทางไร้รอยต่อจริงๆ
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะต้องทำให้โครงข่ายเส้นเลือดใหญ่ และเส้นเลือดฝอยทำงานร่วมกัน และเกิดการบูรณาการการเดินทางอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ลดราคารถไฟฟ้า แต่ละเลยราคารถโดยสารประจำทาง จึงอยากให้มองการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างมากยิ่งขึ้น พร้อมย้ำว่า ในบทบาทฝ่ายค้าน เราไม่ได้ค้านอย่างเดียว เรามีข้อเสนอให้ด้วยว่า นโยบายที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ มีจุดที่คล้ายๆ กับที่รัฐบาลจะทำ คือ โครงสร้างค่าโดยสารร่วมเดินทางข้ามสายได้ ซึ่งเราอยากให้มองไปไกลกว่านั้น ในเรื่องของระบบรถเมล์ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า คือ ขนส่งมวลชน หรือขนส่งสาธารณะ แต่ในเบื้องต้นที่รัฐบริหารจัดการเป็นโครงข่ายหลัก ในสภาพของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ควรนำ โครงข่ายรถไฟฟ้า และโครงข่ายรถเมล์ มาบูรณาการร่วมกัน ไม่ใช่แค่อุ้มแต่รถไฟฟ้า แต่ปล่อยปละละเลยรถเมล์ พร้อมย้ำว่า เราไม่ได้มีปัญหากับการที่รัฐบาลพยายามจะทำให้ระบบขนส่งสาธารณะดีขึ้น เพียงแต่อยากให้มองเป็นระบบ
นายสุรเชษฐ์ ย้ำว่า ตัวชี้วัดความสำเร็จของนโยบาย 20 บาทตลอดสาย คือ รถไฟฟ้าที่มีคนใช้มาก เช่น สายสีเขียว กับสายสีน้ำเงิน รวมถึงสายที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสายสีส้ม จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันจับตา ซึ่งการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมองเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะรัฐมีทรัพยากรที่จำกัด ว่าจะทำอย่างไรให้คนสามารถเดินทางได้จริง ซึ่งตามที่รัฐบาลหาเสียงไว้ว่าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท ถ้าเราเอาเงินไปอุดหนุนมากมายขนาดนั้น ทั้งๆ ที่สายสีเขียวยังคงมีปัญหาหนี้อยู่ การเจรจาที่จะให้เอกชนปรับลดราคาลงก็คงไม่มีทางที่จะได้
อย่างไรก็ตาม เราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการติดตามการดำเนินงานที่รัฐบาลได้แถลงไว้ว่าภายใน 2 ปี รถไฟฟ้าทุกสายโดยเฉพาะสายหลักๆ จะสามารถเดินทางข้ามระหว่างสายได้สูงสุดไม่เกิน 20 บาท ได้จริงหรือไม่