“พริษฐ์” น้อมรับความเห็น “ปิยบุตร” หลังร่ายยาว ปม ส.ส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ เชื่อเจตนาดี ชี้ ข้อเสนอแนะตรงมาตรการพรรคอยู่แล้ว จะพิสูจน์ให้เห็น ยก 3 มาตรการ เชิญผู้เชี่ยวชาญ เพิ่ม กก.หญิง-ปรับแผนไม่ให้ล่าช้า-ติวเข้มบุคลากรทุกระดับ ยันเป็นภารกิจทุกคนในพรรค หลังมีเสียงสะท้อนพรรคไม่กล้าเผชิญปัญหา
วันนี้ (16 ต.ค.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง ส.ส.ภายในพรรค ถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศ พร้อมให้ข้อเสนอแนะ ว่า พรรคก้าวไกลเองก็น้อมรับความเห็นของนายปิยบุตร รวมถึงข้อเสนอแนะว่าเราจะปรับปรุงพรรคอย่างไรได้บ้าง ตนคิดว่าเป็นความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อพรรค เชื่อว่าเป็นความเห็นที่มีเจตนาที่ดีที่จะทำให้พรรคก้าวไกลทำได้ดียิ่งขึ้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ทางพรรคเราก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ และป้องกันปัญหาคุกคามทางเพศ รวมถึงปรับปรุงกระบวนการในการรับมือเมื่อปัญหาเกิดขึ้น ผมคิดว่าข้อเสนอแนะของอาจารย์ปิยบุตรหลายข้อ ก็เป็นข้อเสนอที่เราจะนำมาใช้ในการทบทวนปรับปรุงกระบวนการภายในของเรา” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ ยังย้ำว่า มีหลายประเด็นของนายปิยบุตรหลายประเด็นที่สอดคล้องกับมาตรการที่พรรคก้าวไกลได้ประกาศไป 3 มาตรการ ได้แก่ การปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการวินัยให้มีสัดส่วนของคนนอกที่ไม่ได้เป็น ส.ส. และเป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงไม่ได้เป็นเพศชายมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการปรับปรุงมาตรการดังกล่าวจะทำให้คณะกรรมการทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พอมีคนนอกมาแล้วอะไรที่มีความเชี่ยวชาญ ก็จะทำให้ลดข้อครหาหรือข้อกังวลได้ถึงกรณีคนในตรวจสอบกันเอง
ส่วนข้อที่สอง เราก็มีแผนในการทบทวนกระบวนการตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายตั้งแต่รับเรื่องร้องเรียนไปจนถึงการดำเนินการ รวมถึงการลงโทษในกรณีที่มีการกระทำผิด ว่าเราจะทำอย่างไรให้ทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่เกิดความล่าช้าโดยไม่จำเป็น
ส่วนข้อที่สามที่เราได้ประกาศไว้ คือเรื่องความเข้มข้นในการอบรมบุคลากรพรรค ไม่ว่าจะเป็นการขยายจำนวนผู้เข้าร่วมในการอบรมให้ครอบคลุมไม่ใช่เพียงแค่ ส.ส. หรือผู้ช่วย ส.ส. แต่ครอบคลุมบุคลากรทุกระดับ รวมถึงการเพิ่มความถี่ เพิ่มรูปแบบในการอบรม ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ใช้เวลาในการอบรมมาทบทวนรายละเอียด ซึ่งหลักสูตรการอบรมทั้งหมดก็จะนำมาใช้ในการคัดกรองบุคลากรด้วย
เมื่อถามว่า นายปิยุบตร กังวลว่า อาจจะเป็นการลูบหน้าปะจมูกนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ตนคิดว่าการกระทำของพรรคจะเป็นเครื่องพิสูจน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องอย่าสร้างวัฒนธรรมที่ปกปิดหรือเราจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมที่ไม่มีการปกปิดผู้กระทำผิดภายในองค์กร เพราะกังวลชื่อเสียงองค์กร เพราะฉะนั้นเราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเราได้ดำเนินการตามมาตรการที่ได้ประกาศออกไป
ส่วนที่มีการมองว่าพรรคก้าวไกล ส่ง นายพริษฐ์ และ นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม มาแถลงข่าว ซึ่งเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง ภาพลักษณ์ดูดี แสดงถึงความไม่กล้าเผชิญปัญหาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ตนทำหน้าที่ในฐานะโฆษกพรรค ส่วนนางสาวศศินันท์ ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการวินัย แน่นอนว่า ปัญหาคุกคามทางเพศและการเผชิญหน้าเป็นภารกิจร่วมกันของทุกคนในพรรค ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตนเองหรือนางสาวศศินันท์ ต้องทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่เข้ามาทำงานและคนในสังคมจริงๆ