xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” จับมือมาเลเซียดันสร้างสะพานสุไหงโก-ลก แห่งที่ 2 ขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ เผย จับมือมาเลเซียดันสร้างสะพานสุไหงโก-ลก แห่งที่ 2 ให้สำเร็จ ขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน  เปลี่ยนพื้นที่ขัดแย้งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมตั้งคณะงานติดตามผลภายใน 1 เดือน เตรียมเชิญนายกฯ มาเลเซียลงพื้นที่ชายแดนปลายเดือน พ.ย.นี้

เมื่อเวลา 18.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) วันที่ 11 ต.ค.ที่ประเทศมาเลเซีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการหารือทวิภาคีกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่า เป็นการเจรจาที่มีประโยชน์มากหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเป็นอันดับหนึ่งที่เข้ามาในไทย ขณะที่ประเทศไทยก็เดินทางมาเที่ยวมาเลเซีย ปีละกว่า 7 แสนคน เราจึงเห็นตรงกันว่าจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อมาพูดคุยกันว่าภายในหนึ่งเดือนต้องมีแผนงานชัดเจนว่าจะทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศดีขึ้นได้

นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการค้าชายแดนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งจะต้องมีการแก้ไขให้มีความสะดวกสบายเรื่องของการเข้าออกรวมถึงการสร้างสะพานสุไหงโก-ลก แห่งที่สอง ซึ่งมีการพูดคุยกันมาหลาย 10 ปีแล้ว เชื่อว่า หากทั้งสองประเทศช่วยกันผลักดันสะพานนี้ก็จะสำเร็จโดยเร็วและตนก็อยากเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียมาที่ชายแดน ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อร่วมกันดันให้สำเร็จโดยเร็ว รวมถึงการแก้ปัญหาความแออัดของด่านสะเดาด้วย ทำให้การค้าขายของไทยไม่สามารถไปได้มากกว่านี้ จึงมีการตั้งเป้าหมายว่า จะเพิ่มตัวเลขเป้าหมายทางด้านการค้าระหว่างสองประเทศ จึงมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกชุดนึง ภายในหนึ่งเดือนนี้คงมีเรื่องต้องคุยกันต่อ


นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า อีกเรื่องคือความมั่นคงทางอาหารที่ไทยมีความมั่นคงทางอาหารสูง ขณะที่มาเลเซียก็มีความต้องการทางอาหารและมีความเชี่ยวชาญในการออกตราฮาลาล ซึ่งหากมีการรับรองจากมาเลเซียจะทำให้อาหารฮาลาลเป็นที่ต้องการจากทั่วโลกมาก ทั้งตะวันออกกลางและแอฟริกา จึงมีการพูดคุยกันว่าอยากให้มาเลเซีย มาเข้าหุ้นกับภาคเอกชนของไทยในการตั้งโรงงานผลิตอาหารฮาลาล ที่ประเทศไทยเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับเรา โดยใช้ตราฮาลาล ของมาเลเซียมาเป็นจุดขายเพื่อผลักดันอาหารฮาลาลของไทยออกไปสู่ตลาดโลก

เมื่อถามถึงเรื่องความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เสนอแนวคิดปรับพื้นที่ความขัดแย้งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ โดยไม่เจาะจงเฉพาะพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย แต่จะเปลี่ยนหลายๆพื้นที่ให้เป็นสนามการค้า โดยเป็นการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพิ่อเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกัน เช่น สะพานสุไหงโก-ลก 2 และการก่อสร้างขยายด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งหากไม่มีในส่วนนี้ ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนและพัฒนาการค้าชายแดนได้ และหน่วยงานต่างๆ ที่ประสงค์จะมาตั้งโรงงานในพื้นที่ ก็อาจจะไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ หากสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งสร้างงานได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี พร้อมเชื่อว่าปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลา

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ทางการมาเลเซีย ยืนยันว่า จะให้ความช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องมีการประสานงานในเชิงลึกทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะฝ่ายของไทย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็มีความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดต่อกัน ทั้งนี้ การมาเยือนประเทศมาเลเซียในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย เพราะนายกฯมาเลเซียมีแนวคิดก้าวหน้าและเข้าใจบริบทของการทำงานว่าต้องมีเป้าหมายและกรอบเวลาทำงานที่ชัดเจน จึงเชื่อว่า จะสัมฤทธิ์ผลได้ในหลายๆโครงการ หรืออย่างน้อยก็มีแผนงานที่ชัดเจนให้ประชาชนสามารถติดตามผลงานได้


ต่อมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีฯ ได้ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเดินทางมาเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีเล่าถึงการเข้าเฝ้าฯ สุลต่าน อับดุลละฮ์ เรียยาตุดดิน อัล-มุซตาฟา บิลละฮ์ ชะฮ์ อิบนี อัล-มาร์ฮุม สุลต่าน ฮาจี อะฮ์มัด ชะฮ์ อัล-มุซตาอิน บิลละฮ์ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย พระองค์ที่ 16 ในวันนี้เวลา 14.00 น. (เวลาท้องถิ่นมาเลเซียเร็วกว่าไทย 1 ชม.)สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียโดยได้ทรงฝากความระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีโดยเฉพาะในระดับราชวงศ์ ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีทรงให้ความสนพระทัยในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมฝากถึงประเด็นในการล่าสัตว์ข้ามเข้ามาในเขตชายแดนไทยมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับจะไปกำชับและกำกับเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกนอกจากนี้สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียยังทรงมีความสนพระทัยในเรื่องฟุตบอลเป็นพิเศษ โดยในปี ค.ศ. 2034 จะมีการแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งประเทศในกลุ่มอาเซียนกำลังจะเสนอตัว

ต่อจากนั้น ได้กล่าวถึงการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เกิดประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในประเด็นการท่องเที่ยว ไทยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากมาเลเซียจำนวนมาก โดยผู้นำทั้งสองเห็นตรงกันว่าหากไทยและมาเลเซียมีความร่วมมือกันจะเอื้อประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย และมีพัฒนาการท่องเที่ยวดีขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาในด้านการท่องเที่ยวร่วมกันด้วยนอกจากนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับประเด็นด้านการค้าชายแดน ซึ่งผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะให้ปรับปรุงและอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนของทั้งสองฝ่าย เช่น การสร้างสะพานสุไหงโกลกแห่งที่สอง ซึ่งเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นโดยเร็วนี้ พร้อมจะเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในประเด็นนี้ทั้งสองฝ่ายก็จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเช่นกันโดย 


นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิดปรับพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ โดยแนวคิดนี้ไม่เจาะจงเฉพาะพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น แต่จะเปลี่ยนหลายๆพื้นที่ให้เป็นสนามการค้า โดยเป็นการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างกัน เช่น สะพานสุไหงโกลก 2 และการก่อสร้างขยายด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาการค้าชายแดน รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งสร้างงาน โดยทางการมาเลเซีย ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องมีการประสานงานในเชิงลึกทุกภาคส่วน

ประเด็นที่สาม ที่ได้มีการหารือกันคือเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งทางมาเลเซียมีความชำนาญในการออก certification อาหารฮาลาล โดยทั้งสองฝ่ายพูดคุยหาความร่ววมือระหว่างมาเลเซียกับเอกชนไทย ตั้งโรงงานผลิตอาหารในไทยและให้มาเลเซียออก certification ให้ รวมถึงประเด็น food tech ที่เชิญชวนให้เข้ามาร่วมมือกันโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย โดยการทำงานมีเป้าหมายชัดเจน มีแผนงานที่ชัดเจน และมีการตั้งคณะทำงานให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในส่วนของการช่วยเหลือคนไทยจากเหตุความรุนแรงในตะวันออกกลางนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า จากการหารือกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นพูดคุยเนื่องจากมีความเป็นห่วงคนไทยในพื้นที่เหตุความรุนแรงในตะวันออกกลาง จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือ เนื่องจากมาเลเซียมีความสัมพันธ์ที่ดี อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องของความมั่นคง และมีความละเอียดอ่อน จึงไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประสานกับประเทศอื่นๆ ให้ช่วยเหลือคนไทย ที่อยู่ในพื้นที่ด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น