“วราวุธ” จ่อปรับโรงรับจำนำรัฐเป็นนิติบุคคล เพิ่มสาขาคลุมทุกพื้นที่ ช่วยประชาชนฐานราก

รมว.พม.เตรียมผลักดันโรงรับจำนำของรัฐ เป็นนิติบุคคล ขยายสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ ช่วยประชาชนฐานราก จ่อแก้กฎหมายให้ทันสมัยขึ้น

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจโรงรับจำนำของรัฐ ในการตรวจเยี่ยมสำนักงานธนานุเคราะห์ ว่า สถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือโรงรับจำนำของรัฐ เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางการเงิน

นายวราวุธ กล่าวว่า โดยรับจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ด้วยการให้บริการที่เป็นธรรม รวดเร็ว ทันสมัย ซึ่งจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่องค์กรยุคใหม่ในอนาคต ตนมอบนโยบายการผลักดันให้ สธค. เป็นนิติบุคคล เพราะเมื่อเป็นนิติบุคลแล้ว จะทำให้เพิ่มความสามารถในการให้บริการและกระจายความช่วยเหลือรูปแบบต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชนฐานรากได้มากขึ้น การผลักดันปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.โรงรับจำนำ พ.ศ. 2505 ให้มีความทันสมัยและตรงตามความต้องการ เพื่อประโยชน์อย่างสูงสุดของพี่น้องประชาชน เป็นการรองรับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และการขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

นายวราวุธ กล่าวว่า สธค. แม้เป็นองค์กรที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่นับว่าเป็นองค์กรหนึ่งที่หารายได้เข้ารัฐ เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีศักยภาพในการหารายได้ให้แผ่นดิน โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่จะมีแต่การนำงบประมาณจากรัฐไปใช้ ซึ่งบทบาทของ สธค. ที่เป็นอยู่นับว่ามีความสำคัญที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าหน่วยงานอื่น