“อดีตที่ปรึกษา กรธ.” มอง เอาผิดจริยธรรม “ปดิพัทธ์-ก้าวไกล” ปมสมคบคิดฮุบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน-รองปธ.สภา ยาก หากไร้หลักฐานชัดแจ้ง มองไม่ต่างจากกรณี “ธรรมนัส”
วันนี้ (4 ต.ค.) นายเจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นร้องต่อองค์กรอิสระ ให้ตรวจสอบ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ฐานะรองประธานสภา คนที่หนึ่ง และพรรคก้าวไกล กรณีที่มติของพรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งเข้าข่ายผิดจริยธรรม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือว่ายังไม่เข้าข่ายจริยธรรมร้ายแรง แม้จะอ้างถึงข้อบังคับของพรรคก้าวไกลว่าด้วยการขับสมาชิกพรรค กรณีที่สมาชิกพรรคไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ซึ่งในกรณีดังกล่าวพรรคก้าวไกลมีมติจะรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภา และขอให้นายปดิพัทธ์ลาออกจากรองประธานสภา คนที่หนึ่ง แต่นายปดิพัทธ์ไม่ยอมลาออก จึงต้องใช้มติพรรคขับออก ทั้งนี้ ในหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่มีสภาพบังคับใช้ชัดเจน
นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีผู้มองว่า เป็นกระบวนการสมคบคิดนั้น หากต้องการพิสูจน์ ตนมองว่า ต้องมีพยานหลักฐาน การชี้ให้เห็นว่า นายปดิพัทธ์ และพรรคก้าวไกล มีการเจรจาหรือมีการสมคบคิดกันให้ได้ หากไม่มีถือว่าจะพิสูจน์ได้ลำบาก แม้ในทางสาธารณะจะมองว่าเป็นกระบวนการที่สมคบคิดร่วมกันก็ตาม
“กรณีการขับสมาชิกให้ออกจากพรรคหากเทียบกับกรณีของนายปดิพัทธ์ กับที่เคยเกิดขึ้น คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ท้ายสุดก็รับกลับเข้าสู่พรรคเหมือนเดิม และล่าสุด ยังได้ตำแหน่งรัฐมนตรีอีก ซึ่งไม่ต่างกันกับประเด็นของนายปดิพัทธ์” นายเจษฎ์ กล่าว