xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯรุดมอนิเตอร์สถานการณ์น้ำ รับห่วงสุโขทัยที่สุดพรุ่งนี้ 8 โมงน้ำทะลัก ขออย่าแก้ปัญหาระยะสั้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เศรษฐา" รุดมอนิเตอร์ติดตามสถานการณ์น้ำกรมชลฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความทุ่มเท ห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ลำปาง แพร่ และอุบลฯ พร้อมยอมรับห่วงสุโขทัยที่สุด บอก พรุ่งนี้ 8โมงน้ำทะลัก ขออย่าแก้ปัญหาระยะสั้น

วันนี้ (1 ตุลาคม 2566) เวลา 19.00 น.ณ ห้องประชุมศูนย์ปฎิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปสภาพอากาศ จากว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำ

ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ กล่าวรายงานสรุปสภาพอากาศว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพุดผ่านส่งผลให้ให้ภาคเหนือ และภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำฝน มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์บางพื้นที่ หลังจากนี ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน จนถึงวันที่ 7 กันยายน น้ำฝนจะลดน้อยลง มวลอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ และฝนกลับมาตกจำนวนมากอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 กันยายน เป็นต้นไป สำหรับข้อกังวลเรื่องพายุโคอินุ ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ

ทางด้านนายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวบรรยายสรุปสถานการณ์น้ําว่า ภาพรวมจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา ทําให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณ น้ําล้นตลิ่งและน้ําท่วมขังในพื้นที่ เช่น ลุ่มน้ําวัง มีพื้นที่ น้ําท่วมเนื่องจากปริมาณน้ําในแม่น้ําวังล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบกับจังหวัดลําปาง และจังหวัดตากบางส่วน ลุ่มน้ํา ยม-น่าน

จากปริมาณฝนที่ตกในเขตจังหวัดแพร่ ทําให้ปริมาณน้ําในแม่น้ํายมเพิ่มสูงขึ้น เริ่มมีผลกระทบกับ จังหวัดสุโขทัยบางส่วน ลุ่มน้ําเจ้าพระยา ปริมาณน้ําที่จังหวัดนครสวรรค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ําในแม่น้ําปิงและแม่น้ําน่านยังคงสูงขึ้น ทําให้ต้องมีการบริหารจัดการน้ําและจัด จราจรน้ําในพื้นที่ลุ่มน้ําเจ้าพระยาตอนล่าง โดยควบคุมปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้มีผลกระทบ ต่อพื้นที่ท้ายน้ําน้อยที่สุด ในส่วนลุ่มน้ําชี-มูล พื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ําชีปริมาณน้ําเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนในพื้นที่แม่น้ําชีตอนล่างยังคงมีน้ําล้นตลิ่งบริเวณจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดยโสธร แต่มีแนวโน้ม ลดลง และในส่วนของลุ่มน้ํามูล มีน้ําท่วมบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากปริมาณน้ําล้นตลิ่งบริเวณสถานี M.7 อําเภอวารินชําราบ โดยปริมาณน้ําดังกล่าวจะไหลลงสู่แม่น้ําโขง ซึ่งปัจจุบันสามารถระบายน้ําได้อย่างต่อเนื่อง

ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ กล่าวรายงานสรุปสภาพอากาศว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพุดผ่านส่งผลให้ให้ภาคเหนือ และภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำฝน มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์บางพื้นที่ หลังจากนี ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน จนถึงวันที่ 7 กันยายน น้ำฝนจะลดน้อยลง มวลอากาศเย็นเข้ามาแทนที่ และฝนกลับมาตกจำนวนมากอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 กันยายน เป็นต้นไป สำหรับข้อกังวลเรื่องพายุโคอินุ ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ

ภายหลังรับฟังบรรยายสรุป นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ จากทุกหน่วยงาน ที่ ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์และดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
อย่างเต็มที่ ตนเองได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตลอด และเป็นห่วงพี่น้องประชาชน วันนี้ต้องมาดูด้วยตัวเองที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำแห่งนี้ ทั้งเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำแบบ Real-time รับฟังข้อติดขัดในการปฏิบัติงาน เพื่อช่วยให้ท่านได้ทำงานอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพที่สุด ที่สำคัญก็อยากมาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุมร่วมกันผ่านระบU Video conference เพื่อไม่เป็นการรบกวนหน้างานของท่านที่ทำงานหนักอยู่ในพื้นที่ โดยวันนี้มีสำนักงานชลประทานทั่วประเทศ กรมอุตุฯ และ ปภ. มาร่วมกันประเมินสถานการณ์น้ำและร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อให้การทำงานคล่องตัวที่สุด ซึ่งเบื้องต้น จากที่ได้รับฟังรายงาน เป็นห่วงสถานการณ์ในจังหวัดลำปาง แพร่ และอุบลฯ ที่ถึงแม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงบ้าง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องดูแล ฟื้นฟูและซ่อมแชมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนอย่างเรงด่วน โดยเฉพาะ ณ ขณะนี้จังหวัดสุโขทัย น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะต้องรองรับมวลน้ำที่ไหลลงมาจากจังหวัดแพร่ ซึ่งไหลเข้าท่วมทั้งในพื้นที่เกษตรกรรมและตัวเมืองบางส่วนแล้ว

นายกรัฐมนตรีย้ำ เรื่องสำคัญที่ต้องหารือ คือการวางแผนรับมือกับมวลน้ำที่จะเข้ามาอีกระลอก ซึ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปกว่าเดิม การประชุมวันนี้ขอให้ทุกท่านให้ความเห็นอย่างเต็มที่ ติดขัดอะไร
ขอให้พูดกันตรง ๆ เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุดและทันสถานการณ์

นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. สถานการณ์น้ำ ให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำชี-มูล ลุ่มน้ำยม-น่าน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา

2. ให้หน่วยงาน ได้แก่ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ กรมชลประทาน ตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำ สะพาน และอาคารชลประทาน ให้มีความมั่นคง และพร้อมใช้งานตลอด
ช่วงฤดูน้ำหลาก
3. การช่วยเหลือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเช่น เร่งซ่อมแชมที่ อยู่อาศัย กำจัดขยะที่ มากับน้ำ และตามที่ประชาชนร้องขอ
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการระดมสรรพกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพ
หน่วยงานท้องถิ่น
4. พยากรณ์อากาศ ให้กรมอุตุวิทยาติดตามสภาพอากาศ และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแจ้งเตือนสภาพอากาศกับประชาชน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด
5. และการแจ้งเตือน ให้กรมชลประทานร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ให้ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเวลา 19.40 น. นายกฯให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเพียงสั้นๆว่า เป็นห่วงจังหวัดสุโขทัย โดยวันที่ 2 ตุลาคม เวลา 08.00 น. จะมีน้ำไหลเข้าจังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการพัฒนาระบบเตือนภัย เช่น SMS หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ยังไม่ได้ดูทั้งหมดเลยครับ" ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับออกไปทันที


กำลังโหลดความคิดเห็น