กมธ.สิทธิฯ สานพลังกก.บูรณาการกู้ชีพฉุกเฉิน ร่วมสร้าง “สิทธิเด็กไทยกับความปลอดภัยทางถนน” พบตัวเลขดื่มแล้วขับ ปี65 ถึง 49% เกิดอุบัติเหตุรถรับ-ส่งนักเรียนมากถึง 30 ราย ผลักดันมาตรการ-วัฒนธรรมความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มเด็ก-เยาวชน
ที่ อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับ คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา จัดเสวนา “สิทธิเด็กไทยกับความปลอดภัยทางถนน” นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การจัดเสวนาครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อ “สร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับเด็กและเยาวชน” รวมถึงให้ความรู้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ถูกต้องตามหลักสิทธิและความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และเยาวชน ร่วมกำหนดมาตรฐานสิทธิและความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและ เยาวชน ความรู้ความเข้าใจสิทธิ และความปลอดภัยทางถนน และยื่นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้กับ 3 หน่วยงานสำคัญ ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงคมนาคม และมีการเสวนาหัวข้อ “กลไกการคุ้มครองกับความปลอดภัยทางถนน” และ “รถรับ-ส่ง นักเรียนและหลักประกันความปลอดภัยทางถนน”
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนเป็นวัยที่ออกนอกบ้านมากขึ้น เช่น ไปโรงเรียน ไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งห่างไกลจากพ่อแม่ มีการเล่นกันเป็นกลุ่ม และเริ่มมีการเดินทางในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การโดยสารรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์สาธารณะ การเดินทางจึงมีความเสี่ยงต่อเด็กเสมอ และหากไม่มีการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนน ไม่มีการจัดรูปแบบการเดินทางอย่างเหมาะสม จะทำให้อัตราการตายจากอุบัติเหตุทางถนนในเด็กและเยาวชนมีจำนวนสูงมากขึ้น แนวทางการบรรเทาและแก้ไขปัญหา ต้องพิจารณากำหนดรูปแบบการขนส่งที่ดีต่อสุขภาพ ให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน เพื่อคุ้มครองสิทธิความปลอดภัยทางถนนของเด็กและเยาวชน
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา กล่าวว่า ข้อมูลจากมูลนิธิไทยโรดส์ปี 2562 โดยการสนับสนุนของ สสส. พบว่า ภาพรวมคนไทยสวมหมวกกันน็อกเฉลี่ย 45% กลุ่มเด็กโต-เยาวชน สวมเพียง 10-20% เป็นเด็กเล็กเพียง 8% สำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจพฤติกรรมสุขภาพปี 2564 ถึงความเสี่ยงสำคัญ ของเด็กเยาวชน อายุ 15-24 ปี พบว่า มีการดื่มแอลกอฮอล์กว่า1,917,610 ราย ที่สำคัญในกลุ่ม อายุ 15-19 ปี 49% มีการดื่มแล้วขับ ในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลปีใหม่-สงกรานต์ เด็กเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บรักษาในโรงพยาบาล เฉลี่ย 800-1,000 ราย ต่อปี นอกจากนี้ความเสี่ยงบนท้องถนนของเด็ก และเยาวชน ยังมีเรื่องของรถรับ-ส่ง นักเรียน โดยพบว่าปี 2565 เกิดอุบัติเหตุถึง 30 ครั้ง เกิดอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียน 27 ครั้ง อุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ 2 ครั้ง ลืมเด็กบนรถ 1 ครั้งเฉลี่ย เกือบเดือนละ 3 ครั้ง เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปี 2564 และที่น่าสลดใจอย่างมากมีการลืมเด็กบนรถรับ-ส่งนักเรียน 11 ปี 11 ศพ (ปี
“คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ ร่วมกับสสส. และภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการยกระดับของการลดอุบัติเหตุ สร้างมาตรการความปลอดภัย และร่วมบริหารจัดระบบรถรับ-ส่งนักเรียนที่ปลอดภัย ปรับปรุงทางม้าลายให้มีมาตรฐานความปลอดภัย และสนับสนุนการกำหนดความเร็วที่ 30-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง บริเวณหน้าโรงเรียนและเขตชุมชน สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย และความรับผิดชอบร่วมกัน ผลักดันให้มีหลักสูตรการสอนหรือการจัดการเรียนรู้ “ความปลอดภัยทางถนน” ในชั้นเรียนตั้งแต่ระดับปฐมศึกษาถึงอุดมศึกษาที่ชัดเจน โดยเฉพาะทักษะการประเมินสถานการณ์เสี่ยงขณะขับขี่หรือใช้รถใช้ถนน และขอความร่วมมือ ก.พม. ก.ศธ. ก.คค. มีนโยบายเพื่อดูแลความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นพลังสร้างชาติในอนาคตต่อไป” นายสุรชัย กล่าว