ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “ทั่นโตโต้” ใส่ชุดไทยพื้นเมือง ก็เท่ซะด้วย สามกีบว้าวุ่นเลยทีนี้
มีดรามาไม่พัก สำหรับสส.ผู้ทรงเกียรติ จากพรรคก้าวไกล ล่าสุดเป็น “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ ผู้แทนฯชาวกรุงเทพ เขตพระโขนง-บางนา ที่เมื่อวันก่อน ใส่ชุดผ้าไทยสีส้มสด เข้าประชุมสภา จนโดนค่อนแคะไปต่างๆนานา ทั้งจากพวกเดียวกันเองและฝ่ายตรงข้าม
กระทั่งเมื่อวาน (28 ก.ย.) เจ้าตัวอดรนทนไม่ไหว ต้องโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Piyarat Chongthep (ปิยรัฐ จงเทพ)” สาธายาย ชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงใส่ชุดผ้าไทย หรือผ้าพื้นเมืองเข้าสภา
“สส.โตโต้” ตัดพ้อว่า หลายครั้งที่ใส่ชุดผ้าไหมพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นของจังหวัดอะไรก็ตาม มักจะเจอคำถามที่หลายคนตั้งความคิดยึดติดไปว่า “ชุดผ้าพื้นเมือง หรือบางคนจะเรียกผ้าไทย” เป็นของคนกลุ่มที่มีความคิดอนุรักษ์นิยม ไม่ต้องอื่นไกล จากเพื่อนๆในหมู่มิตรของ “สส.โตโต้” เอง ยังมองว่าการสวมใส่ลักษณะนี้ คือการบ่งบอกนัยต้องการเปลี่ยนค่าย ย้ายสี ไปนั่น บางคนแซวว่า เป็นชุดของพวกรัฐมนตรี เจ้าใหญ่นายโตใส่บ้างละ
แต่ “ทั่นโตโต้” ชวนคิดอีกมุมว่า คุณย่าคุณยายของเขาเป็นชาวบ้านธรรมดา อดีตก็เคยปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ถักทอผ้าเป็นลวดลายมาสวมใส่ หรือฝากขายกับพ่อค้าคนกลางในเมือง หาเลี้ยงชีพ
“ผมเห็นแต่ชาวบ้าน คนพื้นเมืองที่ยังทำอาชีพนี้อยู่ และเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมา ไม่ได้เสียหาย แต่กลับสร้างรายได้ในระบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี จากมือของประชาชนรากหญ้า
“แล้วเรื่องอะไร เราจะบอกว่า ผ้าเหล่านี้คือชุดของผู้ลากมากดีที่ไหน กลับกันเลย มันของชาวบ้าน บางลวดลายเป็นของชนเผ่าพื้นเมืองที่เหลืออยู่น้อยเต็มที่แล้ว” สส.โตโต้ ให้เหตุผล
สส.กรุงเทพฯ ผู้มีพื้นเพมาจากภาคอีสาน อธิบายอีกว่า ครั้งแรกที่ใส่เข้าสภา (ทั้งที่ความจริงไม่เคยใส่เลย และไม่ชอบเพราะร้อน และดูแลรักษายาก) เกิดจากเหตุที่มีชาวบ้านเอาผ้ามาขายในงานแสดงสินค้าพื้นเมืองในเขตของเขา และชาวบ้านขอให้ช่วยซื้อ เพื่อหาค่าน้ำมันรถไถนา จึงช่วยซื้อมาผืนหนึ่ง แล้วไปให้ร้านตัด
“พอใส่เข้าสภาฯ ผ่านไปหลายวัน เขาโทรมาขอบคุณผมทั้งน้ำตาว่า พอผมใส่แล้วลูกเขาเห็น แล้วเอาภาพไปแชร์จนคนทัก ขอสั่งซื้อผ้าไหมเขาเป็นจำนวนมาก สร้างรายได้ในหมู่ชาวบ้านในชุมชน หลักหมื่น ดีใจกันมาก แล้วบอกว่าชาวบ้านจะส่งผ้าไหมมาแทนคำขอบคุณให้ผม แต่ผมรับไว้ไม่ได้”
นี่คือเหตุผลว่า ทุกเดือนจะเห็น “สส.โตโต้” ใส่ชุดพื้นเมือง หรือผ้าไหมจากงานฝีมือชาวบ้านโดยตรง ไม่ต้องผ่านห้างหรู หรือพ่อค้าคนกลาง
“ผมสั่งตรงจากหมู่บ้านเลย แล้วเรื่องอะไรเราจะให้วัฒนธรรมเหล่านี้เป็นของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราทำไมไม่คิดว่า นี่คือน้ำพักน้ำแรง และภูมิปัญญาของคนธรรมดาๆ นี่ละ”
เหตุผลของ “สส.โตโต้” ที่สวมชุดผ้าไทยเข้าสภาก็ถือว่าน่าฟัง และให้แง่คิดได้ดีทีเดียว
แต่ก็นั่นแหละ ด้วยแนวทางของพรรคก้าวไกล และบรรดา “ด้อมส้ม สามกีบ” อะไรที่เป็นของไทยๆ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมานมนาน ก็มักจะถูกมองว่าเป็นความล้าหลัง เก่าแก่ คร่ำครึ ต้องรื้อ ต้องถอนทิ้งให้หมด เมื่อเห็น “สส.โตโต้” สวมผ้าไทยทรงพื้นเมืองโบราณ ก็คงจะขัดหูขัดตา ว้าวุ่นในใจอยู่
แล้วถ้าย้อนไปในยุครัฐบาล “ลุงตู่” ที่เพิ่งจากไปหมาดๆ สส.ของพรรคก้าวไกลบางคน ก็เคยเอาภาพ“ลุงตู่” ใส่ชุดผ้าไทย ทรงเดียวกับที่ “สส.โตโต้” ใส่ ไปเหน็บแนมว่าเป็นชุดของพวกศักดินา เจ้าขุนมูลนายมาแล้ว
ก็คงเป็นเรื่องที่ “สส.โตโต้” ต้องไปคุยกับพวกเดียวกันเองให้เข้าใจแล้วหละ
**ประชาธิปัตย์ผลัดใบยังไม่จบ ปูด “อภิสิทธิ์” จะไปเป็นหัวหน้าพรรคหน่ออ่อนที่ตั้งใหม่
ถึงวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่มีหัวหน้าพรรคตัวจริงและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากนัดประชุมแล้วองค์ประชุมล่มไปสองครั้ง
แว่วว่า จะมีการประชุมรักษาการคณะกรรมการบริการพรรค ในช่วงต้นเดือนตุลาคม เพื่อกำหนดวันเลือกหัวหน้า และกรรมการบริหารชุดใหม่กันเสียที คาดว่าไม่เกินต้นเดือนพ.ย. คงจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่
เหตุผลที่ทางพรรคไม่กระตือรือร้น ที่มีจะหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพราะมันเลยช่วงเวลาร่วมรัฐบาลไปแล้ว และตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทางพรรคก้าวไกล ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะส่ง “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคคนใหม่ ไปรับตำแหน่ง
ประชาธิปัตย์ก็เลยอยู่แบบเซ็งๆ จะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ หรือจะให้คนเก่ารักษาการไปก่อน ก็ไม่ต่างกัน... ไม่เหมือนตอนที่ยังตั้งรัฐบาลไม่เสร็จ บรรดาส.ส.กลุ่มที่ยึดครองพรรคอยู่ ต่างกระเหี้ยนกระหือรือ ที่จะมีหัวหน้า และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อมีมติไปร่วมรัฐบาล... ซึ่งเป็นแนวทางที่ “ขัดใจ”กลุ่มผู้อาวุโสในพรรคที่เหลืออยู่น้อยเต็มที
แต่อยู่ว่างๆ ในช่วงนี้คงกลัวพรรคเงียบเหงาเกินไป จึงมีขาวปูดออกมาว่า มีอดีตสส.ส่วนหนึ่ง จะแยกไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพื่อสนับสนุนให้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค ...เท่านั้นไม่พอ ยังระบุว่า จะมีสส.เก่าส่วนหนึ่งลาออก เพื่อไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย อีกด้วย
แค่ “อภิสิทธิ์”ไปตั้งพรรคใหม่ไม่พอ ยังมีส.ส.จะลาออกไปอยู่เพื่อไทยอีก คนที่ได้ยินได้ฟัง ต่างบอกว่าไม่อยากเชื่อ แต่ก็อยากรู้ ที่มาที่ไป อยากรู้ว่ากำลังเล่นอะไรกันอยู่
ข่าวนี้ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รักษาการหัวหน้าพรรค ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่เคยได้ยิน และไม่สามารถยืนยันได้ว่า จริงหรือเท็จ แต่จุดยืนของประชาธิปัตย์ในตอนนี้คือ เป็นฝ่ายค้าน ที่พร้อมจะทำงานกับทุกพรรคในการตรวจสอบรัฐบาล
ขณะที่ “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตอนนี้มีความสนิทสนมกับส.ส.ส่วนใหญ่ในพรรค ส่ายหัวบอกว่า ไม่รู้กระแสข่าวนี้มีที่มาอย่างไร ส.ส.ในพรรคก็ไม่มีการพูดคุยกันว่า จะมีใครย้ายออก แต่เท่าที่ข่าวออกมา บอกว่าจะมีกลุ่มหนึ่งออก และมีอีกกลุ่มไปตั้งพรรคใหม่ แต่ตนเองยืนยันได้เลยว่า สส.25 คน ชุดปัจจุบัน ไม่มีใครคิดจะย้ายพรรค หรือตั้งพรรคใหม่แน่ ส่วนอดีตสมาชิก ไม่รู้ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกัน
แต่ถ้าไปพูดถึงอนาคต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น ต้องรอไปอีก 3 ปีกว่า อันนั้นก็ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ว่าใครจะอยู่ หรือย้ายไปพรรคไหน ก็ต้องให้เกียรติกัน
“ชัยชนะ” ยังพูดถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่ง “ล้มเหลว” มาสองครั้งว่า ในครั้งที่สามนี้ ทุกฝ่ายต้องถอยคนละก้าว เพื่อพูดคุย หาวิธีการที่ดีที่สุด ขอให้ยอมรับความจริงว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในช่วง “เปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่าน” สิ่งไหนดี ก็ต้องสืบทอดกันไป อะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัย ให้ทันกับโลกปัจจุบัน ก็ต้องเปลี่ยน ถ้าเรายังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ เก่า ๆ เราก็เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ แล้วเราก็ไม่มีอะไรที่จะไปสู้กับคู่แข่งเขาได้...
...การเมืองคือการเจรจา ถ้าเจรจาด้วยความรักและปรารถนาดี มันก็จบ แต่ถ้ายังมีกำแพงกั้น มันก็ไม่จบ!!
ส่วนคนใกล้ชิด “อภิสิทธิ์” พอได้ยินได้ฟังกระแสข่าวนี้ ก็ยืนยันว่าไม่มีทางที่ “อภิสิทธิ์” จะออกไปตั้งพรรคใหม่ หรือออกไปเป็นหัวหน้าพรรคให้ใคร ถ้าออกจากประชาธิปัตย์ หมายถึง เลิกเล่นการเมือง ข่าวที่เจตนาปล่อยออกมาในช่วงนี้ ก็เพื่อดิสเครดิต กันเท่านั้น เพราะอีกไม่นานก็ครบกรอบเวลาที่ต้องเลือกหัวหน้าพรรคกันแล้ว
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เมื่อถึงเวลาเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คู่ชิง จะยังคงเป็น “นราพัฒน์ แก้วทอง กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หรือไม่ หรือจะมีใครมาเป็นผู้นำในการกอบกู้พรรค