“พวงเพ็ชร” เผย ครม.ผ่านงบฯ พระปริยัติธรรม 346 ล้าน ปลดล็อกการศึกษาพระ-เณรไทย เจ้าคุณประสาร ม.จุฬาลงกรณ ชื่นชม รมต.ใหม่รับปากไว้ทำได้ทันที
วันนี้ (27 ก.ย.) นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าตอบแทนรายเดือนแก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) จำนวน 3,320 อัตรา จำนวน 346,726,400 บาท ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ภายหลังที่ได้รับมอบหมายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กำกับ ดูแลและสั่งราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ลงพื้นที่กราบพระเถระตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสอบถามรับฟังปัญหาจากพระเถระตามวัดต่างๆ ได้ให้ข้อเสนอแนะ พร้อมเสนอปัญหาของกิจการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณของการศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) ที่ยังไม่เคยได้รับเลย ทำให้การบริหารการศึกษาในส่วนนี้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อรับทราบปัญหา รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเร่งนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ
ทางด้าน พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ เจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายน ได้พบ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในงานแถลงข่าว 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าใจ และรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะเข้าไปแก้ไขและช่วยเหลือคณะสงฆ์อย่างเต็มที่ ไม่เฉพาะเรื่องนี้ หมายรวมถึงในทุกๆ เรื่อง ที่เป็นภาระหน้าที่รับผิดชอบ ภายหลังที่ได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าตอบแทนรายเดือนแก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) ได้สอบถามไปตาม จศป. ต่างๆ ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศต่างก็อนุโมทนาสาธุการ อนุโมทนาในบุญกุศลที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญต่อการศึกษาของคณะสงฆ์ ให้การอุปถัมภ์ต่อการศึกษาในส่วนของพระสงฆ์ สามเณรที่เป็นเนื้อนาบุญ ที่สำคัญ ท่านรับปากกับพระไว้อย่างไร ท่านก็ทำให้ได้ทันท่วงที จึงเป็นการปลดล็อกปัญหาต่างๆ ที่ค้างคาและหมักหมมมายาวนาน
“ต่อจากนี้ไปงานการพระศาสนาในทุกๆ ด้าน ทั้งการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม ธรรมศึกษา บาลี บาลีศึกษา ปริยัติสามัญ และมหาวิทยาลัยสงฆ์ในสังกัด อว. คงจะมีความหวังมากขึ้นจากภาครัฐ ทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติของรัฐบาลที่มีต่อคณะสงฆ์ทั้งประเทศ” พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าว