ส่องประวัติ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่

เปิดประวัติ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ รับไม้ต่อ “พิธา” นำทัพฝ่ายค้าน

ในการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่และคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2566 มีมติเห็นชอบให้ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนเห็นชอบ 330 คะแนน ไม่เห็นชอบ 5 คะแนน และงดออกเสียง 3

“ชัยธวัช ตุลาธน” มีชื่อเล่นว่า “ต๋อม” เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2521 ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นคนจังหวัดสงขลา จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จังหวัดสงขลา ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจบปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
นายชัยธวัช เคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย โดยในปี 2540 ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และในปี 2541 ได้เป็นเลขาธิการกิจกรรมกลุ่มดังกล่าว

นายชัยธวัช ตุลาธน เคยเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปี 2561 และเริ่มทำงานการเมืองโดยร่วมกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งมีความสนิทสนมเมื่อครั้งเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกับเพื่อนคนดังกล่าว ในระยะแรกเขาได้รับหน้าที่รองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จนกระทั่งเมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรค จึงย้ายไปร่วมงานกับพรรคก้าวไกล และทำหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรคดังกล่าว

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 66 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 ของพรรคก้าวไกล และได้รับการเลือกตั้ง

ภายหลังการเลือกตั้ง นายชัยธวัช มีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกลประสานงานกับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล จนสามารถลงนาม MOU 8 พรรคการเมือง แต่ก็ไม่สามารถผลักดันหัวหน้าพรรคในขณะนั้น คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาไม่เพียงพอ จากปัญหาที่พรรคก้าวไกลยังยืนยันนโยบายจะแก้ไขมาตรา 112

นอกจากนี้ นายพิธา ยังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.กรณีถูกร้องว่าถือหุ้นสื่อไอทีวี ทำให้นายพิธาตัดสินใจลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นที่ยังปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน และทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

ซึ่งเมื่อนายชัยธวัชได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล จึงเป็นที่คาดหมายกันว่า นายชัยธวัช จะได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านด้วย แต่ทั้งนี้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จะต้องออกจากพรรคก้าวไกลไปอยู่พรรคอื่น หากจะยังรักษาตำแหน่งรองประธานสภา ไว้ที่ต่อไป เพื่อไม่ให้ผิดเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญที่ห้ามหัวหน้าพรรคการเมืองที่มี ส.ส.เป็นประธานหรือรองประธานสภา เป็นผู้นำฝ่ายค้าน