นายกฯ มอบนโยบายทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ยืนยันภารกิจหลัก เปิดประเทศ สนับสนุนธุรกิจ เศรษฐกิจ สนับสนุนการใช้สันติวิธีเพื่อความมั่นคงทางการเมือง
วันนี้ (21 กันยายน 2566) เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ณ โรงแรม St. Regis นิวยอร์กนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมเพื่อมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทยในสหรัฐอเมริกา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวสวัสดี และได้เล่าถึงนโยบายปรัชญาการทำงานของรัฐบาลนี้ต้องการเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าได้ด้วยการปฎิบัติตามหลักนิติธรรม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า 7-8 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติมีความเห็นต่างในสังคม ภารกิจหลักของรัฐบาลจึงต้องการเปิดประเทศ สนับสนุนการทำธุรกิจ รวมทั้งรักษาจิตใจของคนในทุกภาคส่วน ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกัน เยียวยาจิตใจให้อยู่ร่วมกันภายใต้กรอบ ของกฎหมายได้อย่างสันติ
การพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทยต่ำกว่าเพื่อนบ้านถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ไข ปัญหาที่สองมีครัวเรือนสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาสังคม ยาเสพติด
โดยก่อนเดินทางมาที่นี่ ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ยึดทรัพย์ เผาทำลาย เจรจาระหว่างประเทศเพื่ออุดพรมแดน ทุกคนต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อความความสมานฉันท์
ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นปัญหาใหญ่การลงพื้นที่ทำให้รู้ว่าประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลจึงตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด โดยได้ออกเป็นมาตรการภายหลังการประชุมครม ลดราคาน้ำมันลดราคาค่าไฟฟ้า
เข้าใจดีว่าควรประเมินปัญหาทั้งหมดแล้วหาทางแก้ แต่ประชาชนต้องการที่ทำให้เราไม่ได้อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้การรัฐบาลจึงดำเนินการทันที การพักหนี้เกษตรกรจำเป็นต้องทำทันทีเพื่อให้ประชาชนมีแรงทำมาหากิน มีกำลังใจ ไม่ต้องแก้ไขปัญหาหนี้สิน ระหว่างที่ตั้งไจทำงาน
การเปิดตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้มีต้นทุนสูงต้องการตลาดที่มีศักยภาพใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก การเจรจาจัดทำ FTA ก็สำคัญ ขอให้ทุกท่านทำงานเชิงรุก Proactive ทั้ง ทวิภาคี และพหุภาคี สรุปการทำงานเพื่อยกระดับ GDP ต้องยกระดับการลงทุนจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้ากระทรวงการต่างประเทศไม่ช่วยเหลือ
นโยบายหลักของรัฐบาลที่สำคัญอีกอย่าง คือการสนับสนุนการพัฒนา Soft power ซึ่งมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกคนเดินหน้าช่วยพัฒนา Soft powerเผยแพร่ในนานาประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ายินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคน
โดยในโอกาสนี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยรัฐบาลมีนโยบายในการจับคู่ธุรกิจ ระหว่างเกษตรกรก้าวหน้าจะมาคู่กับเกษตรกรรายย่อย แซงกันทำให้ครับผลผลิตก้าวกระโดด โดยหลักคิดที่สำคัญคือหากเพิ่มผลผลิตไม่ได้จะเอาชนะในตลาดโลกไม่ได้ และ ต้องเลือกผลผลิตที่มีความต้องการซื้อและใช้น้ำน้อยเมื่อพิจารณาจากสภาพอากาศ เอลนีโญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น