xs
xsm
sm
md
lg

“โรม” โอด ผิดหวังเกินรับไหว “ช่อ” โดนตัดสิทธิตลอดชีวิต เอาไปขังคุกยังรุนแรงน้อยกว่า พ้อ กม.เขียนไม่ชัดแต่กลับลงโทษหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โรม” ผิดหวังเกินจะรับไหว “ช่อ พรรณิการ์” ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ซัดกฎหมายเขียนกรอบกว้างๆ ไม่ชัดเจน แต่กำหนดโทษรุนแรง พ้อหรือเป็นเพราะเกลียด “ก้าวไกล-อนาคตใหม่” จึงทำขนาดนี้ อ้างพวกตนเปิดโปง  ขรก.มา 5 ปี ทุกวันนี้ยังอยู่สุขสบาย เข้าใจ “ปิยบุตร” จวกก้าวไกลตอบโต้ช้า อาจจะทุกข์ใจ เพราะเคยร่วมสนามรบกันมา แต่ว่าทุกคนก็แสดงออกแตกต่างกัน

วันที่ 21 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาพิพากษา น.ส.พรรณิการ์ วาณิช ทำผิดมาตรฐานจริยธรรมกรณีโพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง ถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งและไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่า ตนไม่รู้จุดประสงค์ทางการเมือง แต่ต้องบอกว่านี่คือโทษประหารชีวิตทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากที่จะรับได้ ส่วนตัวคิดว่ารุนแรงมากถึงขนาดตนผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากๆ ซึ่งหากมีการตัดสินว่ามีพฤติกรรมบางอย่างผิดประมวลกฎหมายอาญามาตราใดก็แล้วแต่ แล้วมาดำเนินคดีจริยธรรมต่อก็ยังพอเข้าใจได้ แต่กรณีนี้กลับไม่มีข้อเท็จจริงเหล่านั้นเลย จึงคิดว่าการดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ กฎหมายก็เขียนกว้างๆ เราไม่รู้ว่าการลบโพสต์แล้วคือการงดเว้นหรือไม่ โดยปกติกฎหมายต้องมีความชัดเจนแน่นอนว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำอะไรคือสิ่งที่ไม่ควรทำ การอาศัยมาตรฐานทางจริยธรรมแล้ววางกรอบกว้างๆ แล้วทำให้คดีมีผลรุนแรงขนาดนี้ ตนคิดว่าอยากเกินที่จะรับไหว ตนอยากจะเรียกร้องไปถึงคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมว่าอย่านิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ แม้คนที่ไม่เห็นด้วยกับ น.ส.พรรณิการ์ หลายอย่างก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็น ว่าเป็นสิ่งที่อยากจะรับไหว ซึ่งก็เคยร้องไปยังคณะกรรมการศาลยุติธรรมว่ามีผู้พิพากษาทำผิดพฤติกรรมร้ายแรง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่คืบหน้า

“ข้อหาที่ผมร้องไปรุนแรงกว่าตั้งเยอะ อะไรคือมาตรฐานอะไรคือความเป็นธรรม หรือสุดท้ายเป็นเพราะพรรคก้าวไกล เป็นเพราะคุณช่อเป็นอดีตพรรคอนาคตใหม่ เลยอาจทำให้มีการดำเนินการที่รุนแรงขนาดนี้“

เมื่อถามว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาแสดงความเห็นว่าพรรคก้าวไกลแสดงท่าทีล่าช้า และแล้งน้ำใจ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราเองก็รู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับ น.ส.พรรณิการ์ มากๆ และเราเองก็คิดว่า ได้มีการแสดงความรู้สึกผ่านช่องทางที่แตกต่างกันไป ตนเข้าใจจุดประสงค์ของนายปิยบุตร ว่านายปิยบุตรอาจจะทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็เคยผ่านสนามรบกัน เราเองก็เคยผ่านปรากฎการณ์แบบนั้น หลังจากตนทราบข่าวได้โทรศัพท์ไปคุยกับ น.ส.พรรณิการ์ ก็เข้าใจว่าเป็นอะไรที่รุนแรงมากๆ และตนคิดว่าสิทธิการลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นสิทธิ์รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ควรตัดสิทธิกันง่ายๆ แบบนี้

เมื่อถามว่า อาจมีคนอื่นในพรรคก้าวไกลโดนคดีในลักษณะนี้อีกจะมีการป้องกันอย่างไร นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ป้องกันยากเนื่องจากจริยธรรมไม่ได้เขียนกันแบบชัดเจน หากเปรียบเทียบกับคดีอาญาฆ่าคนตายจะมีโทษชัดเจนว่ามีพฤติกรรมอย่างไร แต่จริยธรรมเป็นนามธรรมเป็นลักษณะของการเปิดช่อง การใช้อำนาจของผู้มีอำนาจให้ทำการใดๆ ก็ได้ ดังนั้น มาตรฐานหรือหลักปฎิบัติที่ชัดเจนมีได้ยากมากสุดท้ายศาลหรือองค์กรที่มีอำนาจก็ต้องใช้ดุลยพินิจของตัวเองไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องตัดสินขัดกับหลักวิญญูชนขึ้นเรื่อยๆ สังคมไทยจะอยู่อย่างไร กลายเป็นว่านักการเมืองมีโอกาสโดนสอยได้ตลอดเวลา ในทางตรงกันข้าม เราเปิดโปงข้าราชการมา 5 ปีทุกวันนี้ทุกคนยังอยู่สุขสบาย

“อะไรคือความเป็นธรรมต่อพวกเรา พวกคุณอาจไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกลบางเรื่อง อาจจะเกลียดพรรคก้าวไกลหลายเรื่อง แต่พูดกันตรงๆ คุณจะใช้อำนาจทุกวิธีทางโดยไม่สนใจว่าคุณธรรมทางกฎหมาย หลักการทางกฎหมายเป็นอย่างไรคุ้มจริงหรือไม่กับการทำแบบนี้ สงสัยคงต้องปิดเฟซบุ๊กกันหมด“

นายรังสิมันต์ ระบุต่อว่า ตนเข้าใจว่าแต่ละคนเคยโพสต์เรื่องราวอะไรไว้บ้าง ตอนนั้นความรู้สึกนึกคิดการเติบโตเป็นอย่างไร วุฒิภาวะและบทบาทของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนโพสต์แล้วก็ลืม มาเจอทีหลังก็มี มันไม่มีกฎหมายบอกให้ลบ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่คือการทำให้เราไม่มีมาตรฐานอะไรมาก่อน และไปใช้ข้อกล่าวหาที่รุนแรงมากๆ มาสร้างมาตรฐานโดยเอาชีวิตคนมาเป็นมาตรฐาน ตนคิดว่าไม่แฟร์มากๆ

เมื่อถามว่า การโพสต์พาดพิงถึงสถาบันจะต้องมีการระวังมากขึ้นหรือไม่เพราะอาจจะโดนอีก นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ก็ยอมรับมีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้น ตนไม่สามารถบอกได้ว่ามาตรฐานอยู่ตรงไหน หวังว่าคนที่อยู่ในศาลถ้าได้ยินสิ่งที่ตนพูดเราไม่มีเจตนาร้ายอะไร

“ประทานโทษนะพวกผมล้มเจ้าได้จริงๆ หรือ ทำไม่ได้หลอก ดังนั้น สิ่งที่พวกคุณกังวลหรือกลัวมันไม่มีทางเกิดขึ้น และขอโจมตีต่างๆ ผมว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้นผมว่าองค์อย่างศาลผมอยาให้ตั้งมั่นในความยุติธรรมจริงๆ สำหรับใครหลายคนเอาเขาไปขังยังรุนแรงน้อยกว่าตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิตด้วยซ้ำไป” นายรังสิมันต์ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น