"ปดิพัทธ์" เผยเหตุเลื่อนตรวจรับมอบรัฐสภาใหม่ เนื่องจากมีความเห็นของของคณะกรรมการตรวจการจ้าง และพบความไม่สมบูรณ์ของแบบหลายประการ แถมก่อสร้างไม่สมบูรณ์เต็ม 100 พร้อมเปิดรับแจ้งข้อมูลทุจริต เพื่อตรวจสอบเต็มที่ ดีเดย์สิ้นก.ย.นี้รู้ผล ก่อนเปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อคามโปร่งใส
วันนี้ (21 ก.ย.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แถลงต่อประเด็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ก.ย. คณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ไม่สามารถลงนามตรวจรับงานแล้วเสร็จ 100% ได้ ว่า เนื่องจากมีความเห็นแย้งของกรรมการฯ ต่อความไม่สมบูรณ์ของแบบก่อสร้างหลายประการ โดยเราจะรวบรวมเพื่อเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเงินภาษีของเราที่ไม่สามารถตรวจรับได้ตามกำหนดเวลา และมีใครต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หากสามารถตรวจรับได้ภายในเดือนนี้ เราก็จะมีการเผิดใช้อาคารรัฐสภาอย่างเป็นการ อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่าความสมบูรณ์และเงื่อนไขตามสัญญาก่อสร้างนั้นมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ประชาชนต่างให้ความสนใจว่าอาคารรัฐสภามีความสมบูรณ์100 เปอร์เซนต์ พร้อมที่จะตรวจรับหรือยัง และเป็นไปตามแบบสัญญาหรือไม่ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจการจ้าง หากใครเห็นว่าอาคารนี้ยังมีจุดที่ต้องสงสัยหรืออาจจะไม่เป็นเหตุให้มีการตรวจรับได้ ก็สามารถแจ้งมาที่ตนเพื่อช่วยกันตรวจสอบ
“ผมไม่ได้เป็นตัวแทนฝ่ายใด ทั้งฝ่ายผู้รับจ้างหรือฝ่ายผู้ว่าจ้าง แต่เป็นตัวแทนของประชาชนที่ต้องการตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส และเรื่องที่เกิดขึ้นใครได้ ใครเสีย ต้องมีคนที่รับผิดชอบ โดยหลังจากที่ผมเดินทางกลับจากการดูงานที่ประเทศสิงคโปร์จะตรวจสอบและแถลงรายละเอียดอีกครั้ง”
นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นที่มีประเด็นเรื่องค่าปรับที่ผู้รับจ้างไม่สามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จตามสัญญา ตามกรอบในปี 2563 นั้นทราบว่ามีความเกี่ยวกับข้องสถานการณ์ของโควิด-19 และ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งตนขอศึกษารายละเอียดอีกครั้ง โดยอาจจะเสียค่าปรับลดลงหรืออาจจะไม่เสียเลย ส่วนที่มีประเด็นฟ้องร้องในรายละเอียดที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น สามารถแยกออกจากการตรวจรับได้ หากตรวจรับเรียบร้อยก็ยังอยู่ในระยะเวลาประกัน2 ปี คดีก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ โดยเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลต่อการตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้จ้าง หรือผู้รับจ้าง แต่จะเป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบเรื่องนี้ให้โปร่งใสที่สุด
เมื่อถามว่าไทม์ไลน์ที่ตั้งเป้าจะมั่นใจทำได้เรียบร้อยหรือไม่ เนื่องจากปัญหาสร้างรัฐสภาใหม่มีความซับซ้อน และ ข้าราชการที่รับผิดชอบเตรียมเกษียณอายุราชการ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าปัญหาของการสร้างรัฐสภาใหม่มีความซ้ำซ้อน ทั้งเรื่องของกฎหมาย เบื้องต้นจะพิจารณาในเรื่องของวิศกรรมและสถาปัตยกรรม ขณะเดียวกันในส่วนของผู้บริหารสำนักงานเเลขาธิการสภาฯที่จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้ต้องมีการสรรหาใหม่ ดังนั้นตนพร้อมจะดูแลเพื่อไม่ให้มีปัญหาการส่งมอบงาน