วันนี้(18 ก.ย.)นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เครือข่ายภาคเหนือ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเชียงใหม่ พร้อมรับปากว่าจะคุยกับทางจีนขอแพนด้ามาประเทศไทยอีกครั้งว่า ในฐานะที่ตนเองก็อยู่เชียงใหม่ เข้าใจดีถึงความน่ารักของแพนด้าไม่ว่า ช่วงช่วง หลินฮุ่ย และลูกหลินปิงที่กำเนิดในประเทศไทย ช่วยปลุกกระแสการท่องเที่ยวให้คึกคักขึ้นได้ เชื่อว่าหลายคนรักและผูกพันกับแพนด้า อยากให้มีแพนด้าในไทยอีกครั้งจริงโดยตนมีความเป็นห่วงเช่นเดียวกับหลายประเทศที่เริ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางการทูตแพนด้า ซึ่งเป็นสัตว์สำคัญใกล้สูญพันธ์ที่ทางการจีนส่งไปประเทศนั้น ๆ แสดงไมตรีใกล้ชิด เนื่องจากแพนด้าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ และมีถิ่นอาศัยในภูมิประเทศและภูมิอากาศเฉพาะ รวมถึงอาหารที่เป็นพืชถิ่น แม้ว่าแต่ละประเทศที่รับมามักดูแลเป็นอย่างดี แต่ย่อมไม่เหมือนถิ่นที่อยู่ของเขา จึงอาจเกิดความเครียด ปรับตัวไม่ได้ อาจเป็นการทำร้ายพวกเขาโดยอ้อมได้
นายนิติพล กล่าวต่อว่า หลายครั้งที่มีการทูตหรือแสดงสัมพันธ์กันผ่านสัตว์ มักตามมาด้วยการมอบสัตว์ของของเราตอบแทนไปเสมอ โดยเฉพาะช้าง เช่น ส่งไปศรีลังกา ก็สามารถนำกลับมาได้เพียงบางเชือก ดังข่าวที่เราเห็นกันแล้วว่าการที่สัตว์ไปอยู่ต่างแดน เราเองอาจไม่สามารถดูแลสวัสดิภาพของเขาได้อย่างทั่วถึง แม้แต่จีนเองเราก็ส่งช้างไปหลายครั้งหลายเชือก แต่ก็ไม่มีการติดตามความเป็นอยู่ หรือแทบไม่เคยนำพวกเขากลับบ้านเลย การทูตผ่านสัตว์จึงเป็นเรื่องไม่ควรสนับสนุน
"การรักษามิตรไมตรีและการค้าขายกับมิตรประเทศสามารถทำได้หลายทาง สำหรับจีน เรามีมิตรภาพต่อกันมานาน จึงไม่จำเป็นต้องสานสัมพันธ์กันด้วยการแลกเปลี่ยนสัตว์ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่คุ้นเคย ซึ่งอาจเป็นการทรมานพวกเขาโดยไม่ตั้งใจได้ เราไปดูแพนด้าในถิ่นเขา เขามาดูช้างในถิ่นเรา ชื่นชมในธรรมชาติของกันและกันดีกว่า"