xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” เผยเพิ่งได้นั่งเก้าอี้นายกฯ แค่ 10 วิฯ ยันพรรคร่วมไม่มีใครมาจากรัฐประหารแล้ว จ่อนอนทำเนียบ ดันบอลไทยไปบอลโลกใน 12 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นายกฯ นิด” ควง ครม.ร่วม Thairath Forum เผย ตั้งแต่เข้าทำเนียบ นั่งเก้าอี้นายกฯแค่ 10 วิ แล้วลุกตามซินแสบอก และยังไม่ได้นั่งอีกเลย ยันพรรคร่วมไม่มีใครมาจากรัฐประหารแล้ว รับไม่ได้ซื้อขายตำแหน่ง เตรียมนอนทำเนียบ 3-4 วันต่อสัปดาห์ ลั่นพัฒนาบอลไทยไปบอลโลกใน 12 ปี

วันนี้ (18 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ ห้องประชุม ชั้น 9 สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต” ในงานเสวนา Thairath Forum 2023 มีรัฐมนตรีเดินทางร่วมคณะจำนวนมาก ประกอบด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ โดยมีคณะผู้บริหารไทยรัฐกรุ๊ป ระดับสูง คอยให้การต้อนรับ นางยิ่งลักษณ์ วัชรพล นายสราวุธ วัชรพล น.ส.เพ็ชรากรณ์ วัชรพล นายวัชร วัชรพล และ น.ส.จิตสุภา วัชรพล


โดยผู้ดำเนินรายการสอบถามว่า ตอนอยู่ภาคเอกชนไม่มีห้องทำงาน ตอนเป็นนายกฯ จะใช้วิธีนั้นหรือไม่ โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตั้งแต่เข้าทำเนียบไปตนนั่งเก้าอี้นายกฯ ประมาณ 10 วินาที ตามที่ซินแสบอกให้นั่งเวลาไหนเท่านั้นแล้วลุกออกมาไม่เคยไปนั่งอีก จะมีระบบการเปลี่ยนแปลงวิธีตั้งโต๊ะทำงานต่างๆ ให้เหมาะกับการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วนมากขึ้น เพราะถ้าเป็นโต๊ะ เป็นกระจก ประตูกั้น ทางกายภาพไม่เป็นมิตรภาพเท่าไหร่ อยากให้เป็นรัฐบาลที่เข้าถึงได้ และกำลังคิดจะไปใช้บ้านพิษณุโลก ให้คณะที่ปรึกษาไปทำงานกัน และหากใครจะมาเป็นที่ปรึกษาตนแล้วถามว่ามีห้องทำงานหรือไม่ถ้าเริ่มต้นแบบนี้คงไม่ได้เป็นที่ปรึกษาตน เรามานั่งคุยกันดีกว่า เมื่อถามว่า เคยพูดว่าอีกสักพักจะมีแผนปฏิบัติงานที่ชัดเจน ทั้งเรื่องงาน เรื่องผลที่จะวัน นายเศรษฐา กล่าวว่า ปีใหม่น่าจะได้ สิ่งที่ตนไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นเพียงการแถลงนโยบาย ไม่อยากจะพูดไว้เฉยๆ ไม่ลืมที่ไปหาเสียงไว้ ไม่ลืมที่ไปพูดไว้ ไทน์ไลน์อาจมีความคลาดเคลื่อน ไม่ถูกจริตความต้องการของประชาชน แต่ตนไม่ได้เป็นนายกฯที่เป็นมา 4 ปี หรือ 8 ปี แล้ว ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ยังไม่ทราบกระบวนการ งบประมาณ กลไล เท่าที่อยากจะทราบแต่พยายามเรียนรู้ระบบราชการให้เร็วที่สุด เพื่อทำงานร่วมกับภาคราชการต่อไป

บอกพรรคร่วมไม่มีใครมาจากรัฐประหารแล้ว

เมื่อถามว่าการไปพูดที่ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) มีการพูดเรื่องการกระจายคอนเนกชัน เพื่อกระจายให้คนตัวเล็ก นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยืนยันว่า วปอ.เป็นสถาบันที่สมควรจะมี และต้องมี เป็นสถาบันที่มีการรวมตัวกันระหว่างข้าราชการชั้นกลางและชั้นสูงที่กำลังไต่เต้าไปจนบนสุดของพีรมิตร ต้องการการประสานงานที่ดีมากๆ และเห็นด้วยกับภาคเอกชนหลายท่านที่ไปมา ตนถือเป็นเรื่องสำคัญ เยาวชนเห็นว่าพวกเราที่นั่งตรงนี้ ทำอะไรไม่เหมาสมอยู่บ้างหรือไม่ อยากคิดไม่มีใครเห็น ตนยืนยันวปอ. เป็นสถาบันที่ดีสมควรได้รับการสนับสนุนต่อไป เมื่อถามถึงกรณีที่บอกว่าเทหมดหน้าตัก เมื่อถามว่าก่อนเลือกตั้งมีคำมั่นต่างๆ แต่การตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอธิบายเหตุผลได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามี 141 เสียง เราต้องการ 376 เรารวมกับก้าวไกล แต่ได้ไม่ถึง ถ้าเราไม่จับมือกับคนอื่นจะได้ 376 หรือไม่ จะคอย 9-10 เดือน ประชาชนคอยได้หรือไม่ มันคอยไม่ได้ ตนไม่ได้ขอความเห็นใจแต่เป็นคณิตศาสตร์พื้นฐาน เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ขั้วประชาธิปไตยชนะเลือกตั้ง แต่การตั้งรัฐบาลทำให้เห็นว่าการรัฐประหารลงอย่างสวยงาม นายเศรษฐา กล่าวว่า จุดยืนตนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร พรรคที่มาร่วมกับเราอย่างภูมิใจไทย แม้มาจากรัฐบาลเก่าแต่ไม่มีส่วนร่วมรัฐบาลเก่า อีกสองพรรคคนที่เกี่ยวกับการรัฐประหารก็ไม่อยู่แล้ว ประเทศต้องเดินต่อ หลายคนจะบอกว่านายกฯส้มหล่น นายกฯ ตระบัดสัตย์ก็พูดกันไป แต่คนเข้าใจจริงทราบคณิตศาสตร์เป็นอย่างไร สิ่งที่จะตอบได้ดีสุดคือเรื่องผลงาน


บอกเป็นภารกิจสร้างความหวัง ปชช.

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ที่บอกว่า อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง มีสองนัยคืออยู่กับปัจจุบันที่มีอยู่โดยไม่มีความฝันที่จะผลัดกันไปวันข้างหน้า นายเศรษฐา กล่าวว่า ความฝัน ความหวัง แรงบรรดาลใจ เป็นภารกิจกิจหลักที่ตนแบกไว้ และต้องนำเสนอ ต้องแสดงให้เห็นในสี่ปี ต้องทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าเขาไม่มีความหวัง อีก สี่ปีก็ไปใช้สิทธิสะท้อนออกมาในคะแนนเสียง เมื่อถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะพูดได้หรือไม่หนึ่งปีครึ่งหรือสองปีจะเสร็จ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการ สถานการณ์ที่เราอยู่เป็นความผิดปกติของรัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไข เมื่อถามว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บอกว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญถ้าทำอย่างเต็มที่จะเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยสัญญาแล้วทำได้จริง นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมเทหมดหน้าตักแล้ว ถ้าเกิดคำว่าไม่เทหมดหน้าตักแสดงว่ายังมีก๊อกสองในกระเป๋า ผมมีอะไรในกระเป๋า ผมไม่มีผมเต็มที่กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม รัฐธรรมนูญ เราพูดไปทุกเวที อาจยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเวลา ถ้าชัดแล้วจะมีการขีดไทน์ไลน์”

รับไม่ได้ซื้อขายตำแหน่ง

เมื่อถามถึงการซื้อขายตำแหน่งจะทำอย่างไรให้การซื้อขายตำแหน่งหมดไป นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ตำรวจอย่างเดียว แต่การให้เกียรติข้าราชการ ไม่ยอมรับการซื้อขายตำแหน่ง การซื้อขายตำแหน่งถือว่าเป็นการคอรัปชั่นที่ร้ายแรงและรัฐบาลนี้ไม่ยอมรับ ส่วนตัวดูกระทรวงการคลังมอบนโยบายก็เน้นเรื่องนี้ ตนไม่ได้หลีกเลี่ยงประเด็นตำรวจเพราะรู้ว่าข้าราชการตำรวจเสียเวลาอย่างมากการวิ่งเต้นโยกย้าย ขออภัย ผบ.ตร.ด้วย แต่เป็นเรื่องจริงที่ต้องพูด ก็จะมีการกำกับในเรื่องนี้ และถ้าพูดถึงความเป็นจริงเรื่องซื้อขายตำแหน่งอย่างไรก็ไม่หมดไป แต่ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ได้ยอมรับการซื้อขายตำแหน่งแต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริง และในเดือน ก.ย. ก็เป็นเดือนที่ร้อนแรงเหลือเกิน ตนคนที่ไม่รู้จักกัน 20-30 ปี ก็ส่งเข้ามา ญาติกันเต็มไปหมดเลยตนก็ไม่รู้ เยอะมากเกินไป ที่ปรึกษาที่คุยกันอยู่ให้ปรึกษาไม่ได้ให้เอาคนมาฝากมันอะไรก็ไม่รู้ ตนจะรู้ได้อย่างไรคนไหนเก่งคนไหนดีก็ต้องไปถามผู้บับคับบัญชาเขา เป็นความลำบากใจเหมือนการที่ต้องจัดลำดับความเหมาะสมระหว่าง ภาคการเมือง ภาคธุรกิจและภาคราชการ ที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ยืนยันแกนของการทำงานให้ความเป็นธรรมมากที่สุดกับภาคราชการ


เล็งนอนทำเนียบ 3-4 วันต่อสัปดาห์

เมื่อถามอีกว่า นายกฯ เป็นคนไหว้สวย นายเศรษฐา กล่าวว่า คุณแม่สอนไว้ว่าการไหว้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นความประทับใจแรกพบ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ถ้าทักทายเหมาะสมเป็นการให้เกียรติให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นใครต้องให้ความเสมอภาคตรงนี้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะนอนทำเนียบนั้น จริงเพราะบ้านที่ตนอยู่เล็ก ต้องมีตำรวจไปดูแลเพื่อนบ้านจะเดือดร้อน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินทางเยอะไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัย คนที่เป็นภาระ คือ ฝ่ายเลขาฯ ระหว่างตนทานอาหารเช้า 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว ตนยอมเป็นภาระกับกลุ่มเลขาฯสี่ห้าคนเท่านั้น โดยจะไปนอน 3-4 วันต่อสัปดาห์ ถ้ามีภารกิจตอนค่ำก่อนนอนก็สามารถสั่งงานก่อนนอนได้อีกครั้งยืนยันทำงานเต็มที่ เทหมดหน้าตักจริงๆก็ต้องทำงานหนักจริงๆ ตอนเจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็เตือนให้ระวังคนจะหาว่าสร้างภาพ ตนเข้าใจในความหวังดี เพราะโดนแน่นอน เมื่อถามว่า อยากเขียนประวัติให้คนจดจำตัวเองอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากเขียนเรื่องราวตัวเอง แต่อยากให้ประชาชนเขียนเรื่องราวของตน อยากให้ประชาชนเห็นว่าชีวิตความเป็อยู่ดีขึ้นอย่างไร ความแตกแยกของสังคมทั้งความต่างวัย ต่างความคิดเราสามารถอยู่กันได้โดยไม่พูดจาด้อยค่ากันด้วยคำหยาบคาย อยากให้สัมคมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อจะหมดวาระ

บอลไทยไปบอลโลกใน 12 ปี

เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นคนชื่นชอบฟุตบอล มีโอกาสหรือไม่ที่บอลไทยจะได้ไปบอลโลก นายเศรษฐา กล่าวว่า มี แต่ต้องมีการตั้งต้นก่อน ต้องร่วมกันพัฒนาวงการกีฬาให้ดีขึ้น เราต้องมีความหวังรัฐบาลมีส่วนช่วยได้ต้องเต็มที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ เคยบอกว่า ญี่ปุ่นใช้เวลาเริ่มต้นไปบอลโลกได้ใช้เวลา 25 ปี แต่เรามีตัวช่วยอื่นๆ จากโควตาบอลโลก ยังมีความหวังตนว่าอย่างช้าไม่น่าเกิน 12 ปี ให้อีก 2-3 รอบ ถ้าเรามีความหวังผู้สนับสนุนก็จะเข้ามาได้ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน








กำลังโหลดความคิดเห็น