“อี้ แทนคุณ” เกาะติด “หมออ๋อง” พาคณะผลาญภาษีบินหรูดูงานสิงคโปร์ จำเป็นแค่ไหนที่ต้องไปช่วงนี้ พิรุธอนุมัติเร่งรีบ ไม่ผ่านอนุ กมธ.แผน และงบฯ สำนักเลขาฯ สภา ตั้งคำถาม “คนจนมีสิทธิไหมครับ” หรือนี่เป็นแผน “ก้าวไกล” ไล่ออกจากพรรคไปฝากไว้ที่ “เป็นธรรม” รักษาตำแหน่งรอง ปธ.สภา เข้าข่ายฮั้วกัน เชื่อจบไม่สวยแน่
วันนี้ (18 ก.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้เดินทางไปดูงานที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี ส.ส.พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และคณะ รวม 12 คน ติดตามไปด้วย ในช่วงระหว่างวันที่ 21-25 ก.ย. 66 โดยศึกษาดูงานด้านระบบสารสนเทศการประชุมของรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์, การบริหารจัดการแรงงานของคนไทยในสาธารณรัฐสิงค์โปร์ และการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุมัติการเดินทางเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติงบประมาณเป็นเงินจำนวน 1,379,250 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางการและระบุงบประมาณอื่นที่เบิกจ่ายสำหรับ ส.ส. 1 คน อยู่ที่คนละ 114,650 บาท
แบ่งเป็น ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ 51,250 บาท, ค่าเบี้ยเลี้ยง 4 วันๆ ละ 3,100 บาท รวม 12,400 บาท, ค่าที่พัก (พักเดี่ยว) 4 คืนๆ ละ 12,500 บาท รวม 50,000 บาท และค่าจัดทำหนังสือเดินทาง 1,000 บาท ส่วนของ นายปดิพัทธ์ มียอดค่าใช้จ่ายรวม 494,650 บาท โดยได้สิทธิค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าที่พัก เท่ากับ ส.ส.คนอื่น แต่มียอดเพิ่มเติมในส่วนของค่ารับรอง 200,000 บาท ค่ายานพหนะ 150,000 บาท และค่าของที่ระลึก 30,000 บาท อยู่ในรายการของนายปดิพัทธ์
สังคมตั้งคำถามว่า สภาจำเป็นไหมที่จะต้องไปดูงานในช่วงเวลานี้ เป็นภารกิจที่คุ้มค่าภาษีประชาชนหรือไม่ โดยถือว่าเป็นการผลาญงบประมาณแผ่นดินในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นปีงบประมาณ (30 กันยายน) โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการตั้งเรื่องอนุมัติอย่างเร่งรีบไม่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการแผนและงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
อยากตั้งคำถามว่า “คนจนมีสิทธิไหมครับ” กับการที่ผู้แทนพาพรรคพวกตัวเอง “บินหรูอยู่สบายด้วยภาษีจากน้ำตาประชาชน” ที่ทำงานหนักหาเงินด้วยความทุกข์ยากแสนสาหัส โดยตนจะคอยติดตามผลลัพธ์ของการไปดูงานเช่นเดียวกับการใช้งบประมาณของรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนตั้งข้อสังเกตไว้ หรืออาจจะเพราะต้องเตรียมลาออกเพื่อย้ายไปพรรคอื่นที่ “เตี๊ยม” กันไว้ระหว่าง 2 พรรค คือ ให้ก้าวไกลใช้เทคนิคขับหมออ๋องไปอยู่พรรคเล็กพรรคหนึ่ง เพื่อสามารถดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ และก้าวไกลสามารถได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ เป็นจริงหรือไม่ อาจเข้าข่ายฮั้วกันหรือไม่ต้องติดตามต่อ เชื่อว่า งานนี่จบไม่สวยแน่นอน