“เศรษฐา” ลงนามแต่งตั้งคณะที่ปรึกษานายกฯ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” นั่งประธาน “พิชิต ชื่นบาน” ทนายความตระกูลชินวัตร ร่วมทีม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 234/2566 ลงวันที่ 14 ก.ย. 2566 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานที่ปรึกษา และมีที่ปรึกษานายกฯ ประกอบด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ, นายพิชัย ชุณหวชิร, นายศุภนิจ จัยวัฒน์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์, นายพิชิต ชื่นบาน, นายชลธิศ สุรัสวดี, นายชัย วัชรงค์ และ นายสุรยุทธ์ ทวีกุลวัฒน์
ให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับการร้องขอและให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบของราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
สำหรับ 9 ที่ปรึกษานายกฯ ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ และรมว.กระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและเคยเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา, นายพิชัย ชุณหวชิร อดีตกรรมการบริษัทในกิจการพลังงานหลายแห่งอาทิไทยออยล์, บางจากปิโตเลียม และ ปตท. เป็นต้น, นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท อาโนส์ กรุ๊ป 2020 จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมสไตล์บูติก เป็นเพื่อนสนิทกับนายเศรษฐา
นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย อดีต สส.และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย, นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย, นายชลธิศ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ หลานชายนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์, นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเกษตร พรรคเพื่อไทยและ นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 78 เคยมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องให้ กทม.จ่ายค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ในส่วนของ นายพิชิต เป็นมือกฎหมายคนสำคัญตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย, พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ดูแลงานด้านกฎหมายให้กับนายกฯมาแล้วถึง 4 คนตั้งแต่ นายทักษิณ ชินวัตร, นายสมัคร สุนทรเวช, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดิมที นายเศรษฐา วางตัว นายพิชิต เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีใน ครม.เศรษฐา 1 แต่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบประวัติโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายพิชิตได้ประกาศขอถอนตัวในครั้งนั้น เพื่อให้นายเศรษฐาสามารถนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯตามกระบวนการโดยไม่ล่าช้า
ทั้งนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แจ้งกลับมายัง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถึงผลการตรวจสอบประวัติ นายพิชิต ว่า ไม่ติดขัดในเรื่องคุณสมบัติต้องห้าม หรือจริยธรรมใดๆ ในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี อย่างไรก็ดี นายเศรษฐา เห็นว่าขณะนี้อาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะทูลเกล้าฯรายชื่อรัฐมนตรีที่ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง อีกทั้งยังไม่มีความชัดเจนในส่วน 1 ตำแหน่งของพรรคพลังประชารัฐ จึงแต่งตั้ง นายพิชิต เป็นที่ปรึกษานายกฯเพื่อช่วยกลั่นกรองข้อกฎหมายต่างๆ ให้กับนายเศรษฐา และอาจจะพิจารณาชื่อ นายพิชิต เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯเป็นรัฐมนตรีในห้วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง
สำหรับ นายพิชิต ถูกวิพากษ์วิจารณ์ กรณีที่ นายพิชิตและพวกอีก 2 รายเคยต้องโทษจำคุก 6 เดือนตามคำสั่งศาลฎีกา ฐานละเมิดอำนาจศาลนำเงิน 2 ล้านบาทใส่ถุงขนมจูงใจให้เจ้าหน้าที่ศาลฯ กระทำการอันมิชอบระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาภิเษกของ นายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ ซึ่งภายหลังมีการเปิดเผยว่าเงิน 2 ล้านบาทไม่ใช่สินบน เป็นเหตุให้อัยการขณะนั้นมีคำสั่งไม่ฟ้องเป็นคดี ตรงกับข้อมูลในชั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ระบุว่าไม่ถือว่า นายพิชิตมีความผิดทางอาญา และในรายละเอียดคำสั่งศาลฎีกา ก็ไม่ได้ระบุว่า นายพิชิตเป็นผู้นำถุงเงิน 2 ล้านบาทไปมอบให้เจ้าหน้าที่ศาลด้วย.