“นิวัติไชย” แจงชี้มูลความผิดคดี “บอส อยู่วิทยา” สาวถึง “สมยศ-เนตร” ผิดจริง ส่วน “เพิ่มพูน” โทษไม่ร้ายแรง ส่งเรื่องให้ต้นสังกัดดำเนินการทางวินัย ย้ำ คดียังไม่สิ้นสุด
วันนี้ (14 ก.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีกลับคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส” นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ นายดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 เนื่องจากมีขบวนการช่วยเหลือในการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถ
คดีดังกล่าวนี้ยังเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสังคมเป็นวงกว้างมาโดยตลอดระยะเวลา 11 ปีเต็ม ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 15 ราย มีตั้งแต่อดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจที่ยังรับราชการอยู่ พนักงานสอบสวนคดี พนักงานอัยการ และนักการเมือง โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา และได้รับการยืนยันชื่ออย่างเป็นทางการแล้ว ได้แก่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเป็นอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส นายพิชัย (ชูชัย) เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายสายประสิทธิ เกิดนิยม และพนักงานสอบสวนบางส่วน
สำหรับ นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ เนื่องจากเรื่องที่มีการกล่าวหามิใช่เป็นความผิดร้ายแรง ตามมาตรา 64 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับรองรายงานการประชุมทั้งหมดก่อน สำนักงาน ป.ป.ช. จึงจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการในลำดับต่อไป ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ในชั้นศาลได้อีก
ทั้งนี้ คดีนี้ ย้อนหลังคดี 11 ปี “บอส อยู่วิทยา” ทายาทกระทิงแดง ที่ขับรถหรูชน “นายดาบตำรวจ” เสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.30 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2555 กำลังขี่รถจักรยานยนต์ตอนที่เขาถูกชนรถเฟอร์รารี ซึ่งขับมาด้วยความเร็ว ชนและลากร่างของเขาไปตามถนน เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร ก่อนรถคันดังกล่าวจะหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ภายหลังพบว่า เป็นรถของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส หลานชายของ เฉลียว อยู่วิทยา ผู้ร่วมก่อตั้งเรดบูล เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว แต่ภายหลังได้มีการติดต่อจากทนายความของ นายวรยุทธ อ้างว่า ระดับแอลกอฮอล์ที่สูงในเลือดของนายวรยุทธ เกิดจากการดื่มในบ้าน เนื่องจากเจ้าตัวมีความเครียดหลังเกิดอุบัติเหตุและได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุ เพื่อแจ้งข่าวแก่ครอบครัวให้ทราบเรื่อง โดยนายวรยุทธอ้างว่า เป็น นายสุเวช หอมอุบล ผู้ช่วยและคนขับรถของตน เป็นผู้ขับรถยนต์ขณะเกิดเหตุ ซึ่งต่อมา นายวรยุทธยอมรับเองว่าเป็นคนขับรถคันดังกล่าวเอง ทำให้ผู้ช่วยของเขาถูกตั้งข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ พันตำรวจตรี พรรณพล นามเมือง เจ้าหน้าที่ร้อยเวร พนักงานสอบสวน ถูกกล่าวหาว่าส่งเสริมการปลอมแปลงหลักฐานและเอกสารบันทึกคำให้การให้นายสุเวชแ สร้งเป็นคนขับ
ส่งผลให้เข้าสู่ขบวนการให้ความช่วยเหลือให้พ้นผิดทุกข้อหา แถมยังได้รับความช่วยเหลือในการเดินทางออกนอกประเทศลี้ภัยไปพำนักอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเวลาต่อมา นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยรับโทษทางกฎหมายเลย อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับรองรายงานการประชุมทั้งหมดก่อน สำนักงาน ป.ป.ช. จึงจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการในลำดับต่อไป ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ในชั้นศาลได้อีก
