“พล.ต.อ.พัชรวาท” ประชุมมอบนโยบายกระทรวงทรัพย์ฯ ภารกิจแรกลุยแก้ปัญหาไฟป่า-PM 2.5 ส่วนปัญหาบางกลอยให้เป็นไปตามกฎหมาย ยันยังไม่ได้ตั้ง “สนธิรัตน์” เป็นที่ปรึกษา เพียงแต่ขอคำแนะนำ
วันนี้ (14 ก.ย.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติงาน หลักในการทำงานที่ยึดถือมาโดยตลอดในการรับราชการ อยากให้ทุกคนนำไปยึดเป็นหลักในการปฏิบัติ คือ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน มีวินัย
1.ขยัน คือการมาทำงานตรงเวลา ไม่เกียจคร้าน
2.ซื่อสัตย์ คือการทำงาน ตรงไปตรงมา โปร่งใส
3.อดทน แม้งานหนักแต่ต้องสู้ ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
4.มีวินัย ทำตามหน้าที่ผู้บังคับบัญชาสั่งงานต้องยึดปฏิบัติ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า อยากให้ช่วยกันเตรียมพร้อมรับมือปัญหาที่จะเกิดขึ้นในฤดูหนาว เช่น ไฟป่า และ PM 2.5 ย้ำว่าการทำงานร่วมกันต้องมีบูรณาการทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาชื่อเสียงหน่วยงาน อย่าให้ใครมาตำหนิการทำงานของกระทรวงเรา หากมีปัญหาให้รายงานผู้บังคับบัญชา
"ทุกท่านรู้งานกันอยู่แล้ว ผมไม่มีทางรู้งานเท่าท่านได้ เพียงแต่เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติงาน หากถือปฏิบัติเช่นนี้ กระทรวงจะราบรื่น ข้าราชการทำงานดีอยู่แล้ว ผมเพียงมาให้ข้อคิด ข้อแนะนำในการทำงานเท่านั้น"
สำหรับภารกิจแรกที่ต้องการทำคือเรื่องไฟป่า และ PM 2.5 พร้อมทั้งสั่งการให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมมาตรการรับมือภัยแล้ง และผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่วน พ.ร.บ.อากาศสะอาด กรมควบคุมมลพิษ ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.เพื่อเสนอต่อ ครม.แล้ว
สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องสิทธิชุมชนสำหรับชาติพันธุ์ เช่น ชาวบางกลอยที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า พล.ต.อ.พัชรวาท ระบุว่าที่ดินชาติพันธุ์มีกฎหมายชัดเจนอยู่แล้ว เพราะกลุ่มชาติพันธุ์มีการโยกย้ายเคลื่อนที่ตลอดเวลา กระทรวงมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว เป็นไปตาทกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมาปฏิบัติภารกิจที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ พล.ต.อ.พัชรวาท ในวันนี้ มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานกรรมการด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เดินทางมาด้วย ทำให้ถูกจับจ้องว่าอาจถูกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรี ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ชี้แจงว่า นายสนธิรัตน์ มาให้คำแนะนำ แต่ยังไม่มีการแต่งตั้ง ส่วนข้าราชการทางการเมืองที่จะมาช่วยงาน ยังพิจารณาอยู่ และขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐด้วย เพราะพรรคมีคนรู้เรื่องพวกนี้เยอะ ทั้งนี้เรื่องการโยกย้ายข้าราชการหน่วยงานในสังกัด เป็นไปตามวาระการแต่งตั้ง ซึ่งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้พิจารณา ตนเองจะดูอีกครั้งว่าสมควรหรือไม่สมควร