xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” มีคิวบินจีน-คาซัคฯ ชวนเที่ยวไทย ชงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฮับ ตั้งเป้า นทท. 40 ล.รายได้ 3.1 ล้านล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย “เศรษฐา” เตรียมบิน จีน-คาซัคฯ ชวนนักท่องเที่ยวมาไทย ชง เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฮับ ศูนย์รวมความบันเทิงในภูมิภาคเอเชีย ตั้งเป้า นทท.ต่างชาติ ปีนี้ 28 ล.คน ปี 67 แตะ 40 ล.คน รายได้ทะลุ 3.1 ล้านล้าน

วันนี้ (13 ก.ย.) นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง 10 เรื่อง ที่จะรีสตาร์ตการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ไฮซีซัน โดยนายกฯ กำชับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และได้ลงไปดูการท่องเที่ยวที่ภูเก็ต พร้อมกับนายกฯทันที โดยตั้งเป้าในปีนี้จะต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวจากต่างชาติให้ได้จากเดิมขึ้น 1.4 ล้านล้านบาท รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศให้ได้ 1 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้า ปี 67 ต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยวทะลุไปที่ 3.1 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ 40 ล้านคน

โดยตลาดเป้าหมายการท่องเที่ยว คือ ประเทศจีน และ คาซัคสถาน ซึ่งจะเปิดฟรีวีซ่า ก่อนหน้านี้ มี 56 ประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า เพิ่ม 2 ประเทศนี้เข้าด้วยเป็น 58 ประเทศ เป็นการเพิ่มความสะดวกในการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยไม่ต้องทำวีซ่า โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัย พร้อมกำหนดแนวทางการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างดี ซึ่งต้องมีผู้ที่รับผิดชอบ หากเกิดความผิดพลาด พร้อมกันนี้ พร้อมดึงดารา ศิลปิน นักร้อง อินฟูลเอนเซอร์ หรือผู้มีระดับสูงของรัฐบาล เข้ามาผลิตภาพยนตร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ นายเศรษฐา เป็นคนออกตัวว่าจะเดินทางไปเยือนประเทศเป้าหมาย เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ยังต้องมีการเพิ่มเที่ยวบินให้ถี่ขึ้น เพิ่มเที่ยวบินการเที่ยวเมืองรองด้วย พร้อมเร่งผลิตและพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานรองรับด้วย เพื่อสร้างความประทับใจและสร้างความแตกต่าง ควบคู่กับการจัดอีเวนท์ ช่วงเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวไทยได้ตลอด 365 วัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า คณะรัฐมนตรีมีเป้าหมายใหญ่สร้างประเทศไทยให้เป็น เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฮับ เป็นศูนย์รวมความบันเทิงในภูมิภาคเอเชีย ส่วนหากมีความไม่ประทับใจในจุดใดของการท่องเที่ยวไทยมีการแชร์และคอมเมนต์ในโซเชียลอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นแบบนั้น จะต้องมีการตั้ง “ออนไลน์ ไครสิต เมเนจเมนต์” หรือ การจัดการภาวะวิกฤตด้านออนไลน์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีจะต้องเข้าไปชี้แจงได้ในทันทีทันใด


กำลังโหลดความคิดเห็น