"เศรษฐา" ลุกชี้แจงรับข้อเสนอปรับรัศมีใช้เงินดิจิทัล บางจังหวัด-พื้นที่ แต่ยังคงระยะเวลา 6 เดือน กระตุ้น ศก.ระยะสั้น ย้ำคงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รมช.คลัง แจงไม่คิดใช้เงินจากกองทุน ดันนโยบายแจกเงิน มั่นใจทำให้ค่าพลังงานต่ำลงได้
วันนี้ (11ก.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่ประเด็นเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ตนตระหนักดีในการอภิปรายว่าในพื้นที่ชนบท ระยะทางที่จะใช้ 4 กิโลเมตร นั้นอาจไม่เพียงพอ ซึ่งรัฐบาลจะขอดูรายละเอียดและปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ในบางพื้นที่ แต่ในเรื่องของระยะเวลา 6 เดือนนั้นรัฐบาลจะไม่เปลี่ยน เพราะมองว่าจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่ ซึ่งให้ความสำคัญมาก
“มีบางคนบอกว่า ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร แต่ผมมองว่าเศรฐกิจภูมิภาคต้องการกระตุ้น หากมีถิ่นฐานจังหวัดใด ควรกลับไปใช้ที่นั่น และมีเวลาใช้ 6 เดือน หากกลับบ้านเพื่อให้สถาบันครอบครัวแข็งแรง ถือเป็นเรื่องดี ดังนั้นระยะเวลาที่ใช้จะคงไว้ แต่บางจังหวัดหรือเขตจะขยายรัศมีหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง”
นายเศรษฐา ชี้แจงด้วยว่าสำหรับการพักหนี้ของเกษตรกร ยอมรับว่าโดย 9 ปีที่ผ่านมา พบการพักหนี้ 13 ครั้ง และไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ดังนั้นรัฐบาลจึงมีมาตรการหลายอย่าง เช่น เพิ่มรายได้ให้เป็น 3เท่า ภายใน4 ปี รวมถึงใช้นวัตกรรมนำ ควบคู่กับมาตรการพักหนี้ เพื่อให้เกษตรกรฟื้นฟูตนเอง มีกำลังใจแก้ปัญหา การพักหนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
สำหรับการผลักดันการท่องเที่ยว คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ในระยสั้นเพื่อนำเงินเข้าประเทศ โดยตั้งเป้าให้ภาคท่องเที่ยวสร้างรายได้ 3ล้านล้านบาททต่อปี ขณะที่นโยบายค่าแรงขั้นต่ำจะปรับโดยเร็วที่สุดตั้งเป้าว่าจะทำให้โตเฉลี่ย 5% ใน 4 ปี เป็นวันละ 600 บาท รวมถึงเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท
“การลดค่าใช้จ่ายพลังงาน มั่นใจว่าทำให้ค่าพลังงานต่ำลงได้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นประโยชน์กับประชาชน การมีอยู่ ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดินจัดสรรให้ประชาชนสร้างประโยชน์ทำกิน ขณะที่ ส.ป.ก. หรือที่ของหน่วยงานราชการ ต้องพิจารณารูปแบบที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างมีศักดิ์ศรี รัฐบาลต้องดูแลให้เหมาะสมทุกมิติ ทั้งภาคเกษตรอุตสาหกรรม อุปโภคบริโภค และทำให้สมดุลกับระบบนิเวศน์ รวมถึงเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กพื้นที่ภาคเหนือ ต้องเร่งทำโดยเร็ว “
นายกฯ ย้ำด้วยว่าการดำเนินการจะไม่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก รวมถึงต้องพัฒนาเรื่องอื่นๆ ตามขีดจำกัดของงบประมาณที่ทำได้ ส่วนคำถามเรื่องทุจริต รัฐบาลให้ัความสำคัญ กับความโปร่งใส ใช้ดิจิทัลมากขึ้นเพื่อลดทุจริตประพฤติมิชอบ
ด้านนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่นโยบายเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่มองว่าภาวะเศรษฐกิจต้องมีนโยบายกระตุ้น ซึ่งหลักคิดสำคัญ กระตุ้นไปยังชุมชนทั่วภูมิภาคอย่างทั่วถึง ด้วยกลไกบล็อกเชนเพื่อกำหนดกรอบใช้จ่ายเงินที่ในกระเป๋าดิจิทัลได้ นอกจากนั้นมีหลักสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อให้อนาคตประชาชนมีกระเป๋าเงินสด และเงินดิจิทัล สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ไทยเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
“แหล่งที่มาของงบประมาณ ได้พูดคุยหลากหลาย ขอให้ระวังในการอภิปรายและเสนอความเห็น อย่าชี้นำ เพราะกระบวนการที่อภิปรายในสภาฯ อาจกระทบความเชื่อมั่น ความเชื่อถือกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งรัฐบาลยึดมั่นกรอบวินัย จะไม่แตะงบในส่วนของกองทุนวายุภักดิ์ บำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ กองทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือ กองทุนประกันตน ไม่แม้แต่จะคิด กระบวนการนั้นขอเวลาตรวจรายละเอียดและเดินหน้าโครงการ ซึ่งจะมีความชัดเจนทั้งงบประมาณ กรอบงบประมาณและการใช้คืนงบประมาณ ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่กู้เพิ่มแน่นอน”
นายจุลพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ไม่เลือกปฏิบัติว่าทุนใหญ่หรือร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมไม่ได้ เป็นสิทธิของประชาชนในการเลือกกิจกรรม แต่รัฐมีนโยบายเพื่อจูงใจให้การใช้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้พบว่ามีประชาชนรวมกลุ่มเพื่อนำเงินไปต่อยอดอาชีพ และสร้างประโยชน์ชุมชน ซึ่งล้ำหน้าไปกว่าที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจะสามารถแตกยอดความคิด และเม็ดเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การรวมเงินเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตเกษตรกรรมที่มีต้นทุนสูง จะเกิดการสร้างรายได้ใหม่ และแชร์ริงของสินทรัพย์ การซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ เป็นต้น