“เดชา ศิริภัทร” เห็นต่าง “ทิชา ณ นคร” เชื่อครูและเพื่อนไม่มีอคติต่อ “หยก” แต่ “หยก” เลือกที่จะไปร่วมกับกลุ่มทะลุวังและไม่ทำตามกฎใดๆ ของโรงเรียน เห็นชัดมีคนเขียนบทและกำกับให้เป็นแค่ตัวแสดง เห็นใจ “ทิชา” หวังดีต่อเด็ก แต่ควรให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องมาจัดการด้วยปัญญา จะใช้ความเมตตามาให้ท้ายเด็กต่อไปอีกไม่ได้
วันนี้(4 ก.ย.) นายเดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้าน ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Deycha Siripatra กรณีนางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก โพสต์เฟซบุีกแสดงความเห็นใจ “หยก” เยาวชนอายุ 15 ปีที่ถูกห้ามขึ้นรถไปทัศนศึกษาที่จังหวัดนครปฐมร่วมกับเพื่อนโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ เนื่องจากไม่มีสถานภาพเป็นนักเรียน แต่ก็ยังพยายามโต้แย้งเพื่อร่วมเดินทางไปให้ได้ จนถูกเพื่อนอุ้มลงจากรถ โดยนายเดชาระบุว่า เห็นข่าว(เด็ก)หยก ถูกเพื่อนๆ อุ้มลงจากรถ แล้วยังนอนขวางรถเอาไว้ มีคนวิจารณ์กันมาก ผมก็ยังไม่อยากแสดงความเห็นอะไร เพราะมีเรื่องที่น่าเขียนถึงและได้ประโยชน์มากกว่า แต่วันนี้ได้เห็นโพสต์ ที่ยกมาด้านล่าง จึงตกลงใจว่าจะเขียนถึงเรื่อง(เด็ก)หยก สักครั้ง เนื่องจากเห็นคุณ ทิชา ณ นคร เป็นคนโพสต์ และเคยโพสต์ถึง(เด็ก)หยกมาหลายครั้งแล้ว
ผมรู้จักคุณ ทิชาฯ อยู่บ้าง เคยได้พบปะพูดคุยกันในงาน คนค้นคนอวอร์ด เมื่อหลายปีก่อน เห็นว่าคุณทิชาฯ เป็นคนดี มีความสามารถ มีความรัก ความเมตตาเด็ก ดูแลเด็กมีปัญหา จึงไม่แปลกใจที่เห็นโพสต์ของคุณทิชาฯ ที่เกี่ยวกับ(เด็ก)หยก จะเห็นใจและสนับสนุนเสมอ
จากโพสต์ล่าสุดด้านล่างนี้ แสดงจุดยืนของคุณทิชาฯ ที่มีต่อข่าว(เด็ก)หยกได้เป็นอย่างดี คุณทิชาฯ เริ่มด้วยความเชื่อว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นจาก อคติ และความเกลียดชัง มาลงที่หยก เห็นว่าหยกเป็น "เด็กธรรมดา" คนหนึ่ง ที่อยาก "เรียนหนังสือ" เป็นความเชื่อของคุณทิชาฯ
แต่คนอื่น(รวมทั้งผม)เห็นว่า ทั้งครูและเพื่อนนักเรียน ไม่มีอคติ หรือเกลียดชังหยกเลย หยกเลือกไปร่วมกิจกรรมกลุ่ม "ทะลุวัง" มากกว่าการเข้าเรียนและไม่ทำตามกฏระเบียบใดๆ
หยกไม่ได้คิดเอง แสดงออกด้วยตัวเอง แต่มีคนคิดวางแผน กำกับและสั่งการเป็นระบบ แม้แต่ครั้งหลังสุดที่ถูกเพื่อนๆ อุ้มลงจากรถ หยกก็ไม่ได้เดินทางไปโรงรียนด้วยตัวคนเดียว แต่มีทีมงานร่วมเดินทางไป "สังเกตการณ์" หรือ "กำกับการแสดง" ด้วย เหมือนกับทุกครั้ง
อย่างนี้พูดได้ใหมว่า หยกเป็นเพียง "ตัวแสดง" ไปตามบทที่มีผู้เขียน และชักใยอยู่เบื้องหลัง
ผมเห็นใจคุณทิชาฯ ที่มีความรู้สึกห่วงใยและหวังดีต่อ(เด็ก)หยก ไม่อยากเห็นเหตุการณ์นี้ คนดีย่อมมีเมตตาจิตต่อผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่มีปัญหามาก เช่นหยก ยิ่งน่าสงสาร เพราะมีปัญหาตั้งแต่ครอบครัว ไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ ต้องออกมาอาศัยอยู่กับกลุ่มทะลุวัง ยังมีคดีความค้างติดตัวอยู่อีก และต้องพึ่งพาผู้ที่มิใช่ญาติ ต้องทำตามที่กลุ่มจะพาไปทำ
เรื่องของ(เด็ก)หยก ผมจะไม่เสียเวลาเขียนถึงมากไปกว่านี้ เพราะคงไม่มีใครสนใจฟังจะขอเขียนถึงเฉพาะคุณทิชา ณ นคร เพราะเชื่อว่าเป็นคนดี มีความสามารถ และมีปัญญา
อยากฝากบอกว่า การรักเด็กเป็นเรื่องดี แต่การ "เข้าข้าง" หรือการ "ให้ท้าย" เด็กนั้นไม่ดี
ผมเคยเป็นเด็กที่ถูก "ให้ท้าย" มา จนเกือบจะ "เสียเด็ก" เคราะห์ดีที่ผมถูกจัดการเสียใหม่
ท่าน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) เคยสอนไว้ว่า "ใจมีเมตตา แต่ต้องปฏิบัติจัดการด้วยปัญญา"
คุณทิชาฯ ใจดี มีเมตตา ต่อ(เด็ก)หยก นั้นดีแล้ว แต่ต้องยอมให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง มาปฎิบัติ และจัดการ ด้วยปัญญาอย่างจริงจัง
จะใช้ความใจดี มีเมตตา มา "ให้ท้าย" (เด็ก) หยก ต่อไปอีกไม่ได้