“เศรษฐา” ทานมื้อเที่ยง 16 รมต.เพื่อไทย กำชับให้เรียกรัฐบาลของประชาชน แทนรัฐบาลภายใต้การนำเพื่อไทย ย้ำไม่ใช่มาด้วยต้นทุนสูง แต่มาแบบเทหมดหน้าตัก ทำงานอย่าอ้างข้อจำกัดเรื่องงบประมาณล่าช้า อะไรทำได้ต้องทำก่อน ห้ามบอกว่าทำไมทำไม่ได้ ติดกฎหมายก็แก้ ถ้าติดที่คนก็เปลี่ยน ลดช่องว่างฝ่ายบริหารกับประชาชนให้ได้
วันนี้ (4 ก.ย.66) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ร่วมรับประทานอาหารกลางวันรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ทั้งหมด 16 คน ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กระทรวงพาณิชย์ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม
โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่พบกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งน่ายินดีว่าพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) เรามีถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนก็ทราบขั้นตอนแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนเคยพูดว่าเราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จากนี้ต่อไปตนจะระวังคำพูด เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชนที่มีพรรคร่วม 11 พรรค เพื่อเป็นการให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชน ซึ่งการทำงานครั้งนี้เรามีผู้มีเกียรติที่นั่งอยู่ที่นี่ที่ได้รับเกียรติของพี่น้องประชาชนเลือกเข้ามา ดูแลบ้านเมือง เชื่อว่าทุกท่านตระหนักดีก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้ ทั้งเรื่องการทำงาน ระยะเวลา และขีดจำกัดของงบประมาณก็เป็นเรื่องสำคัญ
“ช่วงการเลือกนายกฯ และแต่งตั้งรัฐมนตรี ท่านภูมิธรรม พูดหลายหนว่า เราใช้ต้นทุนที่สูง แต่ผมอยากเปลี่ยนเป็นคำว่า เราเทหมดหน้าตัก การเทหมดหน้าตักเป็นเรื่องที่เราต้องทุ่มเทการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน” นายเศรษฐา ระบุ
นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ขีดข้อจำกัดงบประมาณ หรือบอกเข้ามาบริหารช้าไปนิดหนึ่ง ซึ่งการใช้งบประมาณคาดว่าจะได้ใช้ต้นปีหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่างบประมาณจะเป็นขีดจำกัดไม่ให้เราทำงาน เราเชื่อว่าเรามีควิกวินหลายที่เราทำได้ เพื่อดูแลทุกข์สุขยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน อะไรที่ทำได้ก่อนก็ทำ เข้าใจว่าแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ก็มีแผนบางอย่างขึ้นอยู่งบประมาณ ถ้าอะไรทำได้หรืออะไรที่เป็นควิกวินเพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเราทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ตนก็อยากให้เขียนออกมาให้ได้ก่อน และเวลาที่ไปพูดคุยกับประชาชนอย่าไปบอกว่าทำไม่ได้ เราถูกเลือกเข้ามาเพื่อให้ทำให้ได้ ถือว่าเรื่องที่สำคัญที่สุด ดังนั้นรัฐบาลของประชาชนเราต้องลดช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหารและประชาชนให้ได้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ และเราอยากให้ประชาชนเข้าถึงผู้บริหารได้ อยากให้เป็นมิติใหม่ของการทำงานให้รัฐบาลนี้ ถ้าได้มีโอกาสคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลกันจะเน้นย้ำเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
“การทำงานเพื่อประชาชนห้ามบอกว่า ทำไม่ได้ หากติดขัดเรื่องกฎหมายให้แก้กฎหมาย หรือหากติดขัดเรื่องคน ก็ให้เปลี่ยนคน” นายเศรษฐา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเมนูอาหารกลางวันครั้งนี้มีทั้ง ต้มข่าไก่ ไข่เจียวปู สลัดแซลมอน และผัดผักรวม รวมทั้งมนูของหวานอย่างลอดช่องวัดเจษ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.30น. นายเศรษฐา พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้การต้อนรับ น.ส.นฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ที่เข้ามอบกระเช้าแสดงความยินดีกับในโอกาสได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายเศรษฐา ระบุว่า จริงๆ ต้องแสดงความยินดีกับ น.ส.นฤมล มากกว่า เพราะได้เป็นคันทรีเฮดคนแรกของประเทศ และเป็นสุภาพสตรีด้วย เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของประเทศไทย อยากให้ซิตี้แบงก์ ที่เป็นธนาคารของสหรัฐอเมริกาที่มีคนรู้จักอาจจะมากที่สุด เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศไทย เติบโตคู่สังคมไทยไปอีกยาวนาน
โดย น.ส.นฤมล ยืนยันว่าซิตี้แบงก์พร้อมสนับสนุนนโยบายต่างประเทศเชิงรุกของรัฐบาล ซึ่งเรา 95 สาขาทั่วโลก.