อดีตผบ.ทสส. มอง รมว.กห.ป้ายแดง เริ่มต้นดีรับฟังความเห็นอดีตรมว.กห.และผู้นำเหล่าทัพ และดูติดดิน เชื่อฝากความหวังไว้ได้ เผยเป็นกรณีพิเศษพลเรือนคนแรกที่ไม่ได้ควบเก้าอี้นายกฯมารับตำแหน่ง
วันนี้ (4ก.ย.) พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ส.ว. อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงมีกระแสเป็นห่วง นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ซึ่งเป็นพลเรือน และไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านการทหาร ว่า การจะเป็นห่วงหรือไม่ต้องดูว่า รัฐมนตรีคนใหม่เป็นคนอย่างไร และดูส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าทุกคนมีจุดอ่อนและจุดแข็ง แต่เชื่อว่าหากแก้ไขปัญหาได้ มีสติปัญญา รู้จักรับฟังคนอื่น มีความรู้ขั้นพื้นฐานดี โดยไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือการรับฟังความเห็นจากคนอื่น รวมทั้งหากมีหลักในการพิจารณาปัญหาต่างๆ รีบหาข้อมูลตั้งแต่ต้น ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ประโยชน์ และหากดูท่าทีของนายสุทินที่เดินสายรับฟังความเห็นจากอดีตนายทหารและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ควรจะทำเช่นนี้ หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ดูว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง จะได้รับฟังข้อมูลรอบด้าน
ส่วนภาพลักษณ์ ตัวบุคคล ซึ่งนายสุทิน ไม่มีบุคลิก และภูมิหลังด้านการทหารจะมีผลต่อการทำงานหรือไม่นั้น พลเอกบุญสร้างกล่าวว่าภูมิหลังไม่มี ดีกว่ามีภูมิหลังแย่ๆ ซึ่งตนไม่ได้รู้จักกับนายสุทินเป็นการส่วนตัว แต่จากการติดตามก็เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีอะไรดีในตัวเยอะแยะ เป็นคนมีปฏิภาณ คุยสนุก สังคมดี และสิ่งสำคัญเป็นคนติดดิน ซึ่งคนไทยเป็นชาวดินเยอะกว่าที่ไม่ใช่ชาวดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลทหารเป็นเกษตรกร มีการศึกษาค่อนข้างน้อย ดังนั้นหากใครเข้าใจเขาดี รู้พื้นฐาน รู้ว่าเขารู้อะไรไม่รู้อะไร โดยเฉพาะทหารเกณฑ์ที่ความรู้น้อย แล้วเราให้การศึกษาฝึกอาชีพต่างๆก็จะกลายเป็นกำลังสำคัญของชาติดังนั้นตรงนี้ตนคิดว่า เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่จุดอ่อน
เมื่อถามว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพจะยอมรับได้หรือไม่นั้น พลเอกบุญสร้างกล่าวว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพต้องยอมรับได้อยู่แล้วที่มีคนมาร่วมงาน โดยต้องร่วมงานได้ตั้งแต่ระดับพลทหารจนถึงระดับสูง เพราะทหารต้องเป็นคนที่หูตากว้างขวาง ใจกว้าง คบคนได้ทุกอย่าง
ทั้งนี้ยอมรับว่ากรณีของนายสุทินน่าจะเป็นกรณีพิเศษที่เป็นพลเรือนคนแรกไม่ได้ควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยจะทำให้การทำงานจะง่ายขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะการรับตำแหน่งเดียวจะยิ่งทุ่มเทให้กับงานได้มาก จึงไม่น่าเป็นห่วง ดังนั้นเท่าที่ดูเบื้องต้นเชื่อว่าฝากความหวังไว้ได้และน่าสนใจทีเดียว
สำหรับงานแรกที่รัฐมนตรีควรต้องเข้าไปผลักดันนั้น พลเอกบุญสร้างกล่าวว่า ควรรับฟังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทหารมีผู้เชี่ยวชาญสาขา ดังนั้นควรเชิญมาให้ข้อมูล สักพักก็จะทราบเองว่าควรต้องทำอะไรก่อนหลัง เพราะเชื่อว่าทหารน่าจะให้ข้อมูล และเชื่อว่าน่าจะได้ประโยชน์ และไม่น่าเป็นห่วง เพราะแม้เป็นทหารเมื่อไปรับหน้าที่ก็ไม่ได้หมายความว่ารู้ทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคือพื้นฐานในการรู้จักคิด ไม่เห็นมีผล และเรามีหลักที่ดีอย่างเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อว่าใช้ได้ทุกแห่ง ทุกที่
เมื่อถามถึงนโยบายที่พรรคการเมืองอยากทำคือการลดขนาดกองทัพและการเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจนั้น พลเอกบุญสร้างกล่าวว่าเป็นเรื่องที่สามารถพิจารณาได้ ซึ่งกระแสก็อยากจะเห็นว่าทำได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งตนมองด้วยใจเป็นคำว่าทุกคนอยากเห็นประเทศชาติดีขึ้น มึงเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยากและเท่าที่ดูก็เห็นว่านายสุทิน ได้ระดมความเห็นจากคนที่ทราบเรื่องดีและจะสามารถช่วยงานได้ ซึ่งก็เป็นนายทหารหลักและเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดูแล้วน่าจะช่วยได้
พลเอกบุญสร้างยังกล่าวถึงการอภิปราย
นโยบายของรัฐบาลว่า ทหาร ชอบทำมากกว่าพูด ดังนั้นคงไม่อภิปราย แต่อาจจะคุยกันในวงเล็กผ่านคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะหลักทั่วไปในการไปรับงาน ว่าควรมีความตั้งใจที่ดี สร้างทีมเวิร์คในการทำงานร่วมกันไม่ขัดแย้งกัน มีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา หลักของพุทธศาสนาที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งทราบว่านายสุทินก็จบการศึกษาจากอินเดีย ถือว่าเยี่ยม