“โรม” ถาม การเมืองหรือวงการบันเทิงกันแน่ ปม “หมอชลน่าน” ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพือ่ไทย ลั่นลาออก 10 คน หากไม่รักษาสัญญา ประชาชนก็คงผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงท่าทีของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อรับผิดชอบในคำพูด ว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องภายในของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบต่อประชาชนเอง สิ่งที่ตนให้ความสำคัญ คือ เรื่องของสัญญาที่พรรคการเมืองมีต่อประชาชน หากไม่รักษาสัญญา ประชาชนก็จะหมดศรัทธาต่อระบบการเมืองและระบบรัฐสภา ไม่ใช่แค่ต่อพรรคการเมือง ซึ่งหากนักการเมืองพูดอะไรก็ได้ จะทำให้การเมืองถอยหลัง สุดท้ายระบบการเมืองที่เรามีอยู่จะไม่มีคุณค่า เหมือนเป็นการเซ็นเช็คเปล่าให้กับอำนาจมืดที่จะเข้ามาภายหลังได้ โดยหากมองลึกๆ คำสัญญามีความสำคัญ การเมืองในต่างประะเทศก็ให้ความสำคัญกับการรักษาสัญญามาก ผู้นำที่รักษาสัญญาไม่ได้ อย่าว่าแต่ลาออกจากตำแหน่งหนึ่งไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่อนาคตทางการเมืองก็ควรจะจบลง การเมืองไทยควรเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า จะแปลความหมายใดได้บ้างที่ นพ.ชลน่าน ลาออกจากหัวหน้าพรรค แต่อาจจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากให้สะเด็ดน้ำก่อน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทีหลัง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง ประชาชนก็ตัดสินใจได้ ว่า ตกลงแล้วเป็นการรักษาสัญญาจริงๆ หรือเป็นการเตรียมการไว้แล้ว
“เดี๋ยวผมลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแน่นอน แต่เดี๋ยวผมจะไปเป็นรัฐมนตรี ถ้าเป็นอย่างนั้น ละครอ่ะครับ นี่เป็นวงการบันเทิง หรือวงการการเมืองกันแน่” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะเป็นการลดแรงกดดันหรือไม่ นายรังสิมันต์ ถอนหายใจ พร้อมกล่าวว่า ให้ตนประเมินสังคมก็พูดยาก แต่สังคมคงให้น้ำหนักไปกับการรักษาสัญญาในเรื่องของนโยบายที่พรรคเพื่อไทยให้สัญญาไว้ ต่อให้ลาออกอีกสิบคน สุดท้ายแล้วถ้ารักษาสัญญาไม่ได้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนจะสมหวังแน่นอน และประชาชนก็คงจะผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น