ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “ทนายถุงขนม” พิชิต ชื่นบาน มั่นใจในคุณสมบัติที่จะนั่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
ครม. “เศรษฐา 1” ลงตัวเรียบร้อย มีการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับประวัติว่าที่รัฐมนตรี ส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบแล้ว แต่มีอยู่หนึ่งชื่อที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าคุณสมบัติ จะผ่านหรือไม่
คือ “พิชิต ชื่นบาน” ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ว่ากันว่าส่งตรงมาจาก ชั้น 14 รพ.ตำรวจ จึงมีชื่อติดโผเข้ามาแทบจะนาทีสุดท้าย เบียดเอา “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ที่ติดโผรองนายกฯฝ่ายกฎหมายมาตั้งแต่ไก่โห่ หงายหลังตกเก้าอี้ไป
มีคำอธิบายจากคนในพรรคว่า “พิชิต ชื่นบาน” ไม่ได้เป็น ส.ส. จึงถูกส่งมาดูแลเรื่องกฎหมายที่ทำเนียบฯ ส่วน “ชูศักดิ์ ศิรินิล” เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงได้รับภารกิจดูแลเรื่องกฎหมายที่สภา โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามนโยบายพรรคที่เตรียมประกาศ
“พิชิต ชื่นบาน” เป็นคนเดียวกับทนายความที่มีเรื่องอื้อฉาว จากกรณีหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดี ที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนถูกศาลฎีกา มีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาลสถานหนัก
จึงเป็นที่มาของฉายา“ทนายถุงขนม”!!
หลังจากนั้นสภาทนายความยังเห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องร้ายแรงในวิชาชีพ จึงมีมติให้ลงโทษหนักสุดให้ลบชื่อ “พิชิต ชื่นบาน” ออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ
เมื่อ “พิชิต ชื่นบาน” มีชื่อติดโผ เป็นว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงมีนักกฎหมายตั้งข้อสังเกตว่า คุณสมบัติของเขา จะเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากการถูกจำคุกในครั้งนั้น หากคุณสมบัติไม่เหมาะสมแล้วยื่นทูลเกล้าฯไป คงเป็นเรื่องที่มิบังควรเป็นแน่
เพราะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ที่กำหนดให้รัฐมนตรีต้อง มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
เรื่องนี้ “เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าได้มอบหมายให้ เลขาธิการครม. ตรวจสอบแล้ว หากทุกอย่างถูกต้อง ก็ผ่าน แต่หากผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่มั่นใจว่าฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เลือกนายพิชิต มา ก็แปลว่าได้ตรวจสอบดีแล้ว
ขณะที่ “ทนายถุงขนม” ผู้เป็นต้นเรื่อง ก็ออกมาสวนกระแสวิพากวิจารณ์ว่า ตนเองเคยถูกศาลสั่งจำคุก 6 เดือน เมื่อปี 2552 จริง เนื่องจากละเมิดอำนาจศาล แต่ขอยืนยันว่าไม่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
เพราะหลังจากเหตุการณ์นั้น 2 ปี ตนก็ลงสมัคร ส ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และได้เป็นส.ส.ในช่วงปี 54-56 แถมในปี 62 ยังเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เพียงแต่พรรคถูกยุบไปก่อน ยืนยันว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม ไม่เคยต้องคำพิพากษาในคดีความอาญา ในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่ หรือ ศาล
คดีที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในปี 2552 นั้น แจ้งว่า “ร่วมกันใช้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานฯ” ซึ่งพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) สน.ชนะสงคราม มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาพนักงานอัยการ ขณะที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ก็มีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาด และตนถูกสั่งจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาล ไม่ใช่ความผิดทางอาญา อีกทั้งเมื่อตนจะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่ก็ถูกตัดสิทธิ์ ไม่ให้ยื่นอุทธรณ์ทั้งที่ไม่มีกฎหมายรองรับ
“พิชิต” ยังยกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาอ้างว่า ใครก็ตามที่ได้รับโทษจำคุก แต่พ้นโทษมาแล้ว10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ 2560 ให้โอกาสบุคคลนั้นสามารถเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังเปิดโอกาสให้บุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุก ในความผิดฐานประมาท หรือ ความผิดลหุโทษ สามารถเข้าสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้โดยไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาในการพ้นโทษ
ดังนั้น จึงไม่มีเหตุที่จะบอกว่า มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ ห้ามเป็นรัฐมนตรี
นั่นเป็นความเห็นส่วนตัวของ “ทนายถุงขนม” ที่จะมาดูแลงานด้านกฎหมายให้กับนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนจะเห็นตรงกับ ทีมกฎหมายของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่กำลังตรวจสอบประวัติ และคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรีอยู่ในตอนนี้หรือไม่ ต้องติดตาม
**มีใครจะเหม็นกว่านี้อีกมั้ย! "ดวงฤทธิ์" เชิญ "ปาขี้ใส่หัว เซ่นหงายเงิบ" รัฐบาลสลายขั้ว!!
ไม่มีเหา หาเหาใส่หัว แต่สำหรับ "ดวงฤทธิ์ บุนนาค" มาแรงกว่าคือ ไม่มีขี้ หาขี้ใส่หัว
เพราะ จากเคยทวีตแสดงความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่มีวันจับมือกับ “พรรคลุงป้อม” และ ขณะที่กระแสเปลี่ยนขั้วแรง ตอนนั้นเจ้าตัวทวีตย้ำอีกรอบ เชื่อว่า เพื่อไทยจะไปกับก้าวไกลเท่านั้น ไม่เปลี่ยนขั้วไปจับกับภูมิใจไทย และสองลุงเด็ดขาด แล้วยังเรียกร้องให้ ด้อมทั้งหลาย เลิกปั่น เลิกเพ้อเจ้อ ถ้าผิดจากนี้ให้เอาขี้ปาหัวได้เลย
อย่างที่รู้กัน วันนี้ ทุกอย่างผิดไปจากที่ “ดวงฤทธิ์” คิด เพราะการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เจ้าตัวเลยสวมบทผู้กล้า จัดอีเว้นต์ เชิญบรรดาแขกผู้มีเกียรติ ปาขี้ใส่หัวตามสัญญา
สถาปนิกและนักออกแบบหนุ่มใหญ่ ทวีตข้อความโดยระบุว่า เป็นจดหมายส่งถึงผู้คนเพื่อรักษาไว้ซึ่งการรับผิดชอบต่อการสื่อสาร และรักษาไว้ซึ่งคำพูด และเจตจำนง จึงจัดกิจกรรมใน วันที่ 2 ก.ย. เวลา 15.14 น. ใช้เวลาปาขี้ 11 นาที ณ Mirror Art ซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6
ทีมงานของ “ดวงฤทธิ์” จะเตรียมขี้ไว้ให้ ใครไม่เชื่อใจก็ให้นำขี้มาเอง
ดูทรงงานนี้ ถ้าไม่รักกันจริง จะมีใครมาร่วมงานหรือเปล่า เพราะคงจะเหม็นคลุ้งไปทั่วทั้งงาน
บรรดาญาติสนิทมิตรสหาย แนวร่วมนักความเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งหลาย เมื่อรู้ข่าวก็มีทั้งอยากจะไปร่วมแต่ก็กลัวเหม็น หรืออยากเห็นดวงฤทธิ์ ทำเป็นอย่างอื่นจะได้ไหม
“บก.ลายจุด” สมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง บอกว่า หะแรกคิดจะคัดค้าน แต่ก็ต้านความตั้งใจของเจ้าตัวไม่ไหว ตอบรับจะเข้าร่วม แต่จะไม่ปาขี้
ขณะที่ "พระเพนกวิน" พริษฐ์ ชิวารักษ์ ขอบิณฑบาต สังคมอย่าไปปาขี้โยมด้วงจริงๆ เลย งดได้จะเป็นกุศล
ส่วนตัวตึงระยอง "ไมค์ ระยอง" ภาณุพงศ์ จาดนอก โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เห็นด้วยกับการรักษาคำพูด แต่เป็นห่วงความปลอดภัย และความสะอาด ถ้ารู้สึกผิดจริงแค่ขอโทษก็พอ ถ้าจะปาขี้จริงๆ เอาไปปาพรรคเพื่อไทย เหมาะสมกว่า
เรียกว่า ขอสังคมให้อภัย “พี่ด้วง” เถอะ ในเมื่อแสดงความรับผิดชอบไปแล้ว เล่นกับของเหม็นๆเห็นแล้วก็เป็นห่วงเชื้อโรคจะถามหา
ว่าไปแล้วก็ต้องชื่นชม “ดวงฤทธิ์” ที่อย่างน้อยก็รักษาคำพูด รักษาสัญญา ส่วนใครจะไปปาหรือไม่ปาขี้ ก็ติดตามดูกันไป
“ดวงฤทธิ์” ทำแล้วแต่พวกที่เคยสัญยิงสัญญาอะไรไว้ก่อนนี้ เชื่อว่าคงอยู่ไม่เป็น ไม่สงบแน่ๆ เอฟเฟกต์ ปาขี้ใส่หัวนี้จะพาคณะทัวร์ไปเยี่ยมชมโดยไม่ต้องสงสัย
ส่วนมีใครบ้างนั้น ก็รู้ๆกันอยู่นะจ๊ะ!